FootNote : จุดสร้างสรรค์ อาชีวะเพื่อชาติ สร้างจุดเด่นให้กับ “แฮมทาโร่”
การปรากฏขึ้นของ “พลังอาชีวะเพื่อชาติ”กำลังจะเป็นเรื่องดีเมื่อนำไปวางเรียงเคียงอยู่กับการปรากฏขึ้นของ “วิ่งนะวิ่ง นะแฮมทาโร่”
หรือการปรากฏขึ้นของ “แจวเรือหาประชาธิปไตย”
ยิ่งเมื่อมีการเปรียบเทียบกับ “3 พระจอม ไม่ยอมจำนน”อันเป็นของแท้จากสถาบันราชมงคลพระจอมเกล้า ยิ่งแจ่มชัด
ยิ่งแจ่มชัดในความแตกต่าง ยิ่งแจ่มชัดในท่วงทำนอง
ความแตกต่างที่สำคัญมิได้อยู่ที่ว่า กลุ่มหนึ่งต้องการออกมาปกป้องรัฐบาล ขณะที่กลุ่มหนึ่งต้องการออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้ หยุดคุกคาม ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ยุบสภา
หากที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มหนึ่งเทเสียงให้กับ “เผด็จการ” อีกกลุ่มหนึ่งเทเสียงให้กับ “ประชาธิปไตย”
ยิ่งกว่านั้น หากนำเอาการเคลื่อนไหวของ “พลังอาชีวะเพื่อชาติ” ไปวางอยู่ในระนาบเดียวกันกับการออกมาเคลื่อนไหวของ “เดินเชียร์ลุง”ก็จะสัมผัสได้ในลักษณะร่วมหลายประการ
นั่นก็คือ การรวมพลังของ “คนรุ่นเก่า”เพื่อออกมาคู่ขนานกับการรวมพลังของ “คนรุ่นใหม่”
คงจำกันได้ว่ากิจกรรม “เดินเชียร์ลุง” ปรากฏขึ้นในบรรยากาศของกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง”
“วิ่งไล่ลุง” จัดขึ้นที่สวนรถไฟ บริเวณใกล้เคียงกับสวนจตุจักร
คำประกาศ “วิ่งไล่ลุง”ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้ผุดกิจกรรม “วิ่งเชียร์ลุง”ขึ้นในเบื้องต้น และต่อมาก็ประกาศเปลี่ยนจากวิ่งเชียร์ลุงมาเป็น “เดินเชียร์ลุง”
เมื่อถึงวันดำเนินกิจกรรม “เดินไล่ลุง”ในสวนลุมพินีจริงๆ ทุกคนก็ยอมรับในความจำเป็นต้องเปลี่ยนจาก “วิ่งเชียร์ลุง”มาเป็น “เดินเชียร์ลุง”
เพราะองค์ประกอบที่สำคัญของผู้เข้าร่วม “เดินเชียร์ลุง”ล้วนเป็นผู้อาวุโสทั้งชายและหญิง
ขณะที่กล่าวสำหรับ “วิ่งไล่ลุง”กลับเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งชายหญิง
จุดเด่นของ “เดินเชียร์ลุง”ที่อุดมไปด้วยคุณลุง คุณป้าได้รับการสืบทอดมาอยู่ใน“พลังอาชีวะเพื่อชาติครบถ้วนและสมบูรณ์
การเกิดขึ้นของ “เดินเชียร์ลุง”ทำให้การปรากฏขึ้นของ “วิ่งไล่ลุง”มีความโดดเด่นอย่างไร การเกิดขึ้นของ“พลังอาชีวะเพื่อชาติ”ก็ทำให้บทบาทของ “3 พระจอม ไม่ยอมจำนน”โดดเด่นอย่างนั้น
ยิ่งเมื่อทอดตามองไปยัง “วิ่งนะวิ่ง นะแฮมทาโร่” ประสานเข้ากับ “แจวเรือหาประชาธิปไตย” ยิ่งเห็นความแตกต่าง
นี่คือคุณูปการอันยอดเยี่ยมของ “พลังอาชีวะเพื่อชาติ”
