FootNote:เงาสะท้อน การศึกมิหน่าย กลยุทธ์ 19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร
มีความจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจต่อการเคลื่อนไหว “19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”อันมาจากสมองก้อนโตของ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”ใหม่
แม้จะยังได้รับการพาดหัวข่าวตัวไม้จากสื่อกระแสหลักระบุว่าเป็น “ม็อบเด็ก” แต่ก็ดำเนินไปตามที่กวีพระองค์หนึ่งยืนยัน
เฮ้ย เฮ้ย อย่าเย้ยหยามเด็ก พริกก็พริกเม็ดเล็ก เผ็ดแท้
ไม่ว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ไม่ว่า รุ้ง ปภัสยา จะเคยอ่านตำราขบวนศึกของท่านซุนวูมาก่อนหรือไม่ แต่ก็สามารถยึดกุมกระบวนท่า
“การศึกมิหน่ายกลยุทธ์”อย่างครบถ้วน
เริ่มจากสามารถสามัคคีกับพี่ๆ “คนเสื้อแดง”ได้อย่างคึกคัก ไม่ว่าจะมาจากภาคเหนือ ไม่ว่าจะมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโดยเฉพาะการจัดเป็นกองทัพเรือจากนนทบุรี
เดินทางโดยเรือเป็นริ้วขบวนยาวเหยียดจากท่าน้ำนนท์มาจอดที่ท่าพระจันทร์พร้อมกับธงแดง
เป็นธงแดงที่โบกสบัดและปักเหนือ “หมุดคณะราษฎร 2563”
การปรากฏขึ้นของ “หมุดคณะราษฎร”พร้อมกับคำประกาศที่ว่าจะเดินทางจากสนามหลวงไปบนถนนราชดำเนินเพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อ นายกรัฐมนตรี
นำไปสู่บทสรุปที่ว่าทำเนียบรัฐบาลคือเป้าหมายของ “19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”
ขณะเดียวกัน เมื่อมีหมุดก็น่าจะเป็น “ลานพระบรมรูปทรงม้า”
บนถนนราชดำเนินและบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลและที่จะไปยังลานพระบรมรูปทรงม้าจึงมีการสร้างปราการแห่งบังเกอร์อันแข็งแกร่งขึ้น
เป็นบังเกอร์ 2 ชั้น 3 ชั้น ในช่องตรงกลางก็อุดมไปด้วยลวดหนามแน่นหนา ตระเตรียมรับมือกับขบวนของประชาชนที่คาดไว้ว่าจะไม่ต่ำกว่า 50,000 คน
แต่แล้วเป้าหมายกลับกลายเป็น “ทำเนียบองคมนตรี”
การเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคันรถในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน จึงพลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย
เป้าหมายของ “19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร” อย่างแรกสุดก็คือมีการปักหมุดจริง หากแต่บนท้องสนามหลวงที่สามารถยึดคืนมาได้
จากนั้น รุ้ง ปภัสยา จึงเดินทางไปยัง “ทำเนียบองคมนตรี”
ไม่ว่าการปักหมุดที่ท้องสนามหลวง ไม่ว่าการยื่นหนังสือไปยังทำเนียบองคมนตรีล้วนเป็นการต่อสู้ในเชิงสัญลักษณ์