FootNote : โฉมใหม่โครงสร้างพรรคเพื่อไทย ประตูที่เปิดกว้างต่อคนหน้าใหม่
แม้ตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะยังเป็นของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ด้วยความจำเป็นหลายเงื่อนไขทางการเมือง แต่เลขาธิการพรรคก็ตก เป็นของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อันถือว่าเป็นมิติใหม่
มิติใหม่ในที่นี้มิได้หมายความว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง จะมีความเหมาะสมและเหนือกว่า น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
แต่มิติใหม่ในที่นี้จุดหนึ่ง คือ การกระจายตำแหน่งเลขาธิการพรรคออกไปจากส่วนกลางให้อยู่ในตัวแทนอันมาจากภูมิภาคและในส่วนซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรค
หากหัวหน้าพรรคเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ซึ่งมาจากภาคเหนือ เลขาธิการพรรคเป็น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ซึ่งมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ถือได้ว่าเหมาะสม
กระนั้น จุดหนึ่งซึ่งมีความสำคัญและเป็นความสำคัญอย่างรีบด่วนกับสภาพการณ์ทางการเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวด เร็วอยู่ในขณะนี้คือการเปิดประตูรับกับ “คนรุ่นใหม่”
หากมองจากรองเลขาธิการพรรค หากมองจากโฆษกพรรค อาจสัมผัสได้ในการเข้ามาของคนหน้าใหม่ทางการเมือง
บทเรียนของพรรคการเมืองในอดีตที่ผ่านมาเด่นชัดว่าได้เปิดประตูอ้าแขนรับคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ แต่ก็ด้วยสัดส่วนที่ไม่มากนักและมิได้มีบทบาทที่เป็นจริงมากนัก
พรรคเพื่อไทยเองก็แสดงบทบาทในเรื่องนี้ตั้งแต่ยุค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานยุทธศาสตร์มาแล้ว
ดังจะสัมผัสได้จากการผลักดันเพื่อไทย”พลัส”
แต่หากมองอย่างเปรียบเทียบบทบาทของเพื่อไทย “พลัส” กับบทบาทของคนหน้าใหม่ทางการเมืองในพรรคอนาคตใหม่ ถือได้ว่ามีจุดด้อยทั้งในทางบทบาทและการเคลื่อนไหว
สะท้อนให้เห็นว่าประตูที่เห็นว่ากว้างนั้นไม่ถือว่ากว้างขวางอย่างเต็มที่ เสมอเป็นเพียงให้มีไว้ในลักษณะไม้ประดับ ผลงานของคนหน้าใหม่จึงมิได้ปรากฏอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน
บทเรียนนี้พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องทบทวน โดยเฉพาะในยุคของ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
การทบทวนนี้อาจจำเป็นต้องใช้เวลา แต่หากมองถึงสภาพการณ์ทางการเมืองก็แทบไม่เหลือเวลาให้กับพรรคเพื่อไทยมากนัก จำเป็นต้องเร่งรัดในการดำเนินการ
เปิดประตูให้กับ”คนรุ่นใหม่”ได้แสดงบทบาทอย่างเต็มพิกัด
ให้สอดรับกับความตื่นตัวของการเมืองใหม่ และการเข้ามาของคนรุ่นใหม่ในแต่ละพื้นที่ในทางการเมือง