บทบาทและความปรารถนาดีของ นายพิชัย รัตตกุล น่าศึกษา น่าทำความเข้าใจ
อย่างน้อยก็จาก 2 เรื่องใหญ่ในทางการเมือง
1 การเสนอให้ 1 พรรคเพื่อไทย 1 พรรคประชาธิปัตย์ หันมาจับมือเป็น “พันธมิตร”
เลิกโจมตี เลิกให้ร้ายต่อกัน
1 การเสนอให้มีการจัดตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ”โดยคสช.เป็นผู้ริเริ่มและลงมือปฏิบัติ
ถามว่าอะไรคือ “เป้าหมาย”
คำตอบเห็นได้ชัดเป็นอย่างยิ่งว่า ต้องการ”การปรองดอง” ต้องการ “เอกภาพ”และความเป็นหนึ่งเดียวทางการเมือง
แล้ว”ผล”เป็นอย่างไร
ต่อข้อเสนอที่อยากให้ 1 พรรคเพื่อไทย 1 พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นมิตรกันในทางการเมือง
ถูก”ปฏิเสธ”อย่างฉับพลัน
น้ำเสียงที่ออกมาที่หนักแน่นและจริงจังมิใช่จากพรรคเพื่อไทย หากแต่มาจากพรรคประชาธิปัตย์
เป็นไปไม่ได้ Impossible
ขณะที่ข้อเสนอว่าด้วย “รัฐบาลแห่งชาติ” ไม่เพียงแต่จะถูกปฏิเสธจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ หากแม้กระทั่งพรรคชาติไทยพัฒนาก็มองไม่เห็นหนทาง
ถามว่า พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ต้องเห็นความปรองดอง สมานฉันท์หรอกหรือ
อยากเห็นแต่คิดว่า”ยังไม่ถึงเวลา”ของ “รัฐบาลแห่งชาติ”
ภายในความคิดในลักษณะแห่ง”จินตนาการ”ของ นายพิชัย รัตตกุล ก็สะท้อน”ความเป็นจริง”ของสังคมไทย
สะท้อนว่า ความขัดแย้ง แตกแยก รุนแรง ล้ำลึก
สะท้อนว่า เป้าหมายที่จะ”ปรองดอง”อันริเริ่มและนำเสนอโดยคสช.ตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ยังวนเวียนอยู่ภายในเขาวงกตแห่งความขัดแย้ง แตกแยก
มิใช่ว่าพรรคเพื่อไทยจะอืดเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว
หากแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ก็ยอมรับว่า ตีบตัน ไม่สามารถเดินหน้าไปได้
ต่างตกอยู่ใต้”ทศวรรษแห่งความอับจน” หนทาง