คอลัมน์ บทบรรณาธิการ – อันเนื่องมาจากจุดตัด

อุบัติเหตุบนท้องถนนครั้งร้ายแรง รถไฟชน รถบัส บริเวณจุดตัดทางรถไฟคลอง แขวงกลั่น .บางเตย .ฉะเชิงเทรา เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่ฟ้องว่าระบบราชการและการเมืองมีปัญหาเรื้อรัง

ถ้าไม่แก้ไขอย่างใส่ใจจริงจัง ไม่ปฏิรูป เหตุการณ์ที่เกิดมาแล้วหลายครั้งก็คาดได้ว่า จะเกิดต่อไปอีกหลายครั้ง

น่าแปลกว่าก่อนหน้าเกิดโศกนาฏกรรมลักษณะนี้ ทางการมีตัวเลขสำรวจจุดตัดทางรถไฟมาแล้ว 2,684 จุด แต่ไม่ชัดเจนว่าได้นำตัวเลขดังกล่าวไปจัดการอย่างไร

เหตุใดที่ชาวบ้านขอให้เจ้าหน้าที่รัฐมาติดตั้งไม้กั้นจุดตัดจึงได้รับคำตอบว่า หน่วยราชการไม่มีงบประมาณให้

เมื่อหน่วยราชการไม่มีงบประมาณให้ ก็ไม่มีทางออกว่าจะคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตประชาชนอย่างไร

เหตุการณ์รถไฟชนรถบัสวันที่ 11 ..2563 เป็นหนึ่งในอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟ เฉลี่ยปีละ 77 ครั้ง ด้วยจำนวนผู้บาดเจ็บ 74 ราย และผู้เสียชีวิต 28 ราย

ปัญหาที่แทรกอยู่ในอุบัติเหตุนั้นๆ สะท้อนถึงระบบการเมืองที่ไม่กระจายอำนาจอย่างจริงจัง และระบบราชการที่ใหญ่เทอะทะ กฎหมายที่มีข้อบังคับซ้ำซ้อนและบางฉบับขัดแย้งกันเอง จนหาหน่วยงานรับผิดชอบอย่างจริงจังไม่ได้

หลายๆ กรณีที่หน่วยงานราชการประสานงานกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าหน่วยงานใดมีหน้าที่จัดทำหรือจัดสรรงบประมาณสำหรับการแก้ไขปัญหา

สุดท้ายปัญหาที่ชาวบ้านร้องเรียนและเสนอทางแก้ไข จึงเหมือนลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ

เรื่องที่น่าสงสัยและเป็นโจทย์ของรัฐบาลปัจจุบันคือการเติบโตของรัฐราชการในยุครัฐประหารได้เพิ่มอุปสรรคสำหรับการปฏิรูปการเมืองหรือไม่

รัฐบาลมองเห็นหรือไม่ว่าการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ประท้วงความล้าหลังทางการศึกษาเกี่ยวข้องกับระบบราชการที่ใหญ่โต ไม่คล่องตัว ไม่จัดการสะสางปัญหาที่เรื้อรัง

มีการใช้อำนาจของบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่เคารพสิทธิเด็ก รวมถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เหมือนอุบัติเหตุบนจุดตัดรถไฟ

ถ้ารัฐบาลมองเห็น จะทำให้เข้าใจ มากขึ้นว่าเหตุใดนักเรียนนักศึกษา และประชาชน จึงออกมาประท้วงวันที่ 14 ..

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน