กก.สมานฉันท์-ทางออกหรือซื้อเวลา

รายงานพิเศษ

กก.สมานฉันท์ – ผลจากการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เสนอตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อหาทางออกประเศ โดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา รับหน้าที่ประสาน เชิญอดีตนายกฯ อดีตประธานรัฐสภามาร่วม

แม้จะยังไม่ได้เป็นรูปร่างออกมาแน่ชัด แต่เป็นที่จับตาว่า คณะกรรมการสมานฉันท์ที่จะตั้งขึ้นมานั้นจะช่วยหาทางออกของประเทศหรือแค่การซื้อเวลา

โอฬาร ถิ่นบางเตียว

รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา

ข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า อดีตนายกฯทั้ง 4 ท่าน ถึงแม้จะมีประสบการณ์ มีความเป็นกลางแต่สถานการณ์และเงื่อนไขมันแตกต่างกับอดีต ความขัดแย้งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นชนชั้นนำทางการเมือง ขัดแย้งกันเรื่องการช่วงชิงอำนาจ แต่ครั้งนี้ความขัดแย้งเพิ่มตัวแปรใหม่

ไม่ใช่กลุ่มชนชั้นนำแต่เป็นเยาวชนคนหนุ่มสาวที่อยากเห็นอนาคตตัวเองที่ดีกว่า อยากเห็นระบบการเมืองที่มีธรรมาภิบาล เห็นโครงสร้างทางการเมืองที่สมดุลสัมพันธ์ในเชิงอำนาจที่ลงตัว

แม้จะมีอดีตนายกฯ ซึ่งมีบารมีพอสำหรับการแก้ปัญหาในอดีต แต่ห้วงสมัยนี้มันไม่บาลานซ์กันแล้ว ท่านอาจมีศักยภาพพอจะคุยกับกลุ่มชนชั้นนำการเมืองในอดีตได้ แต่เชื่อว่าท่านอาจไม่ได้รับความไว้วางใจจากคนหนุ่มคนสาว นี่คือปัญหาของโมเดลแรก

โมเดลที่สอง ต้องกลับมาที่เจตจำนงเดิมว่ารัฐบาลมีความจริงใจมากแค่ไหนในการคลี่คลายปัญหา เห็นด้วยกับการนำผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้คนหนุ่มคนสาวเข้ามา เป็นส่วนหนึ่งในการคลี่คลายปัญหา แต่ก็จะนำไปสู่ปัญหาหลักคือประเด็นข้อเรียกร้อง ซึ่งมันไปไกลและทะลุเพดานไปแล้ว

การให้นายกฯลาออกหรือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กลายเป็นเงื่อนไขรอง ถ้ากรรมการชุดนี้ไม่กล้าแตะประเด็นหลัก ถึงจะพยายามดึงการมีส่วนร่วมทุกฝ่ายมาก็ไปต่อไม่ได้ ปัญหาจะคาราคาซังต่อไป

ทั้ง 3 ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเป็นเรื่องจำเป็นมากที่สุดที่กรรมการต้องหยิบมาพูดคุย หากโชคดีกลุ่มผู้ชุมนุมยอมตกลงเอาเฉพาะข้อ 1 กับ 2 ก่อนได้ก็ถือว่าจบ แต่การแถลงผู้ชุมนุมยืนยัน 3 ข้อนี้ล้วนเป็นประเด็นหลัก กรรมการไม่ว่าจะออกมารูปแบบไหนต้องกล้าจะพูดทุกประเด็น

การที่ผู้ชุมนุมประกาศไม่ร่วมด้วย ฝ่ายค้านก็ไม่ส่งตัวแทน เป็นปัญหาแน่นอน เพราะผู้มีส่วนได้เสียประกาศไม่เข้าร่วม แม้จะตั้งคณะกรรมการตามโมเดลที่หนึ่งหรือสอง แต่ถ้าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักไม่เข้าร่วมด้วย กระบวนการนี้ก็จะกลายเป็นเวทีสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาล

กรรมการสมานฉันท์จึงไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง แค่ตั้งมายื้อเวลาให้รัฐบาล ไม่สามารถจัดการปัญหาได้จริงๆ เพราะเราไม่กล้าแตะและเอาใจกลางปัญหามาพูด ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำ การจัดวางสถาบันกับระบอบประชาธิปไตย การทุจริตคอร์รัปชั่น หรือความขัดแย้งทางการเมือง เราไม่เคยแตะทำเพียงแค่ให้ผ่านเงื่อนไข ประวิงเวลาไปเท่านั้น

ผู้ใหญ่ต้องถอดบทเรียนตัวเอง อดีตนายกฯต้องพึงสังวรว่าพวกคุณทั้งหลายไม่เคยจริงใจในการแก้ปัญหา ปล่อยให้ปัญหาซุกอยู่ใต้พรม จนถึงวันนี้เมื่อปัญหามันระเบิดออกมาแล้ว มีทางเดียวเท่านั้นคือพวกคุณต้องออกมายอมรับความจริง กล้าพูดถึงปัญหาใจกลางหลักคือเรื่องสถาบัน ไม่อย่างนั้นเราไปต่อไม่ได้ เพราะปัญหามันมาถึงจุดเดดไลน์ของมันแล้ว

แต่คิดว่าจุดยืนของรัฐบาล นายกฯ หรือจุดยืนของสถาบันพระปกเกล้าไม่กล้าแตะต้องเรื่องนี้ เพียงแค่ดำเนินการให้ดูเหมือนว่าได้ทำไปแล้ว เพื่อดึงมวลชนส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของนิสิต นักศึกษา หรือพรรคฝ่ายค้าน ทำให้เห็นว่าฝ่ายนี้กำลังเล่นเกมการเมือง

ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายรักสถาบัน แต่เรามองเห็นความรักสถาบันและมีวิธีการรักแตกต่างกัน ผมเชื่อว่าคนไทยไม่มีใครปฏิเสธเรื่องสถาบัน แต่เรามองความเป็นอยู่ของสถาบันต่างกันแค่นั้น

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ

อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์

ความพยายามที่จะสร้างความปรองดองหรือสมานฉันท์ เหมือนการมานั่งลงแล้วคุยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและดีกว่าไม่มีการพูดคุยกัน แล้วมาฆ่ากันไปเรื่อยๆ แบบนี้ ฉะนั้นเบื้องต้นมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำเพราะดีกว่าไม่ทำ

แต่จากประสบการณ์ที่เราเห็นผ่านมาหลายสิบปีก็จบลงด้วยการพูดๆ มีข้อเสนอ แต่ไม่มีการปฏิบัติ ซึ่งเรื่องนี้ต่างหากที่มองว่าเป็นเรื่องน่าเป็นห่วง คงเพราะเรื่องที่กำลังจะทำไม่มีเจตจำนงที่จะมาหาข้อสรุปแล้วปฏิบัติตาม

ประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลายสิบปีก็เป็นแบบนี้และน่าวิตก เพราะได้แต่พูดๆ กัน แต่ไม่ลงมือปฏิบัติ ฉะนั้นส่วนตัวไม่หวังอะไรเท่าไรกับการจะตั้งกรรมการชุดนี้ ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ใครมาเป็นกรรมการ มีตัวแทนจากกี่หน่วยงาน หรือแม้แต่มีอดีตนายกฯ เป็นใครบ้าง เพราะถ้าขาดเจตจำนงที่จะหาทางออกจริงๆ เรื่องก็จะล้มเหลวเหมือนกับทุกๆ ครั้งที่ ผ่านมา

ที่ผ่านมาเราก็เห็นว่าคนมีชื่อเสียงใหญ่โต เป็นที่เคารพนับถือ มาแล้วก็เล่นเกมนี้ เสร็จแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเชื่อว่าถ้าหากไม่มีสถานการณ์บางอย่างที่บีบบังคับเขาก็จะทำแต่เพียงการพูดๆ แล้วก็พูด

ฉะนั้นเห็นด้วยกับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ประกาศว่าไม่เข้าร่วมกรรมการชุดนี้ ถ้าถึงจุดหนึ่งผู้มีอำนาจรู้ว่าเดินต่อไปแบบนี้ตัวเองจะแพ้ก็อาจยอมประนีประนอม ซึ่งการประนีประนอมจะเกิดขึ้นได้เชื่อว่าต้องมีสถานการณ์มาบีบบังคับ

คงคล้ายกับรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ต้องมีสถานการณ์มาบีบบังคับจึงทำให้รัฐธรรมนูญนั้นออกมาได้ ไม่ใช่เพราะฝ่ายรัฐบาลยอม แต่เป็นการถูกบีบว่าต้องออกรัฐธรรมนูญให้ได้ เทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันก็เช่นกัน ถ้าไม่มีแรงบีบบังคับไม่ว่าจะทางตรงหรืออ้อมคนที่มีอำนาจอยู่เขาไม่ยอมแน่

ฉะนั้นแล้วไม่หวังกับกรรมการสมานฉันชุดนี้ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ด้วยประวัติศาสตร์บอกให้เราอย่าไปหวังลมๆ แล้งๆ กับผู้มีอำนาจที่มาด้วยความไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้นจนปลาย อย่าไปเพ้อเจ้อ

ส่วนที่นายชวน หลีกภัย ไปเชิญทั้งอดีตนายกฯ และอดีตประธานรัฐสภามาร่วมด้วยก็บอกเลยว่าไม่หวังในตัวนายชวน และพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งๆ ที่เคยเชื่อมาตลอดชีวิตจนมาถึงการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ไม่ขอเชื่ออีกแล้ว

ทั้งนี้แม้จะตั้งกรรมการสมานฉันท์ได้แล้ว ก็ยังมั่นใจว่าเขาจะไม่กล้าหาญที่จะนำ 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมมาหารือ ยิ่งคนเจเนอเรชั่นเก่ามันยากมากๆ ที่จะคุยถึงข้อเรียกร้อง เพราะถูกสั่งสอนแล้วเราคุ้นเคยกับวิถีเก่าๆ อีกทั้งเขาได้ประโยชน์กับระบอบที่เป็นมาหลายสิบปีจึงทำให้ไม่กล้าคุยเรื่องที่เป็นข้อเรียกร้อง

การมีกรรมการสมานฉันท์ก็ยังถือว่าดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แต่ก็อยากให้คิดเผื่อ อย่าไปเพ้อเจ้อ หรือหวังว่ามันจะเป็นทางออกเสมอไป เพราะเดี๋ยวจะอกหักเปล่าๆ

ยุกติ มุกดาวิจิตร

สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์

ไม่ว่าจะเป็นกรรมการปฏิรูป หรือกรรมการปรองดองอะไรก็แล้วแต่ ไม่ตอบโจทย์ความขัดแย้งที่มันยืดเยื้อในปัจจุบัน ผมยังมองว่าเป็นการเตะถ่วง ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรและยิ่งจะทำให้อุณหภูมิร้อนแรง ต่อให้ดึงสัดส่วนคณะราษฎร 6 ต่อ 3 หรือจะเท่าไร เขาก็ไม่ยอม เพราะการเคลื่อนไหวของเขาไม่มีใครเป็นตัวแทน ไม่มีใครเป็นแกนนำใคร

ข้อเสนอของพวกเขาชัดเจนคือ 3 ข้อ ที่พวกเขาพูดตลอดเวลา นายกฯต้องลาออก ยุบสภา การแก้ไขรัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบัน ซึ่งทุกกลุ่มที่เข้าร่วมพูดเรื่องนี้

สิ่งที่ต้องทำทันทีคือนายกฯ ต้องลาออก แล้วมาสร้างกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่สะท้อนเสียงประชาชนอย่างแท้จริง ผู้ร่างจะมาอย่างไรก็คุยกัน ทำอย่างไรให้ผู้คนรู้สึกว่าสะท้อนเสียงประชาชนอย่างแท้จริง

การตั้งกรรมการปรองดองนี้ขึ้นมาก็ไม่ต่างกับการ ตั้งคณะบุคคลหรืออภิสิทธิ์ชนอีกกลุ่มเท่านั้นเอง กรรมการก็มีหน้าที่แค่ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม เวลาที่พูดถึงเรื่องนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือประโยชน์ของชนชั้นนำ หรือคนที่ได้เปรียบอยู่แล้ว ความได้เปรียบไม่เคยถูกลดทอนหรือแตะต้อง

สังคมไทยควรเลิกพูดถึงการประนีประนอม เพราะไม่ได้ประนีประนอมในความหมายที่นำข้อเสนอจากฝ่ายต่างๆ มาวาง พิจารณาถกเถียงและนำไปสู่ฉันทามติร่วมของสังคม แต่เป็นการประนีประนอมเพื่อกลบเกลื่อน เตะถ่วง ซื้อเวลา ปัดปัญหา แล้วก็กลับมาแบบเดิม คือโครงสร้างแบบอำนาจนิยมยังอยู่ ในแบบเอื้อประโยชน์คนบางกลุ่ม

ส่วนตัวผมไม่ว่าจะเป็นกรรมการสมานฉันท์ในแบบมีตัวแทน 7 ฝ่าย หรือแบบคนนอก ก็ไม่เอาทั้ง 2 แบบ ถ้าสถาบันพระปกเกล้ายังเป็นสถาบันที่เข้าใจการเมืองไทยควรเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คืออะไรกันแน่

การดึงอดีตนายกฯ หรืออดีตประธานรัฐสภามาร่วมในกรรมการสมานฉันท์ เพียงช่วยให้คุณชวน หลีกภัย สบายใจ ช่วยให้ชนชั้นนำเองสบายใจว่าหากจะขยับก็มีคนที่คุยกันได้ เข้าใจกันได้

หากจะทำจริง ทำไมคุณชวนไม่ทำให้ชัดเจน ดึงยิ่งลักษณ์ ทักษิณ มาคุยด้วย คุยผ่านระบบออนไลน์ก็ได้ อดีตนายกฯ ที่ยังมีชีวิตมีใครบ้าง ความหมายของนายชวน จึงไม่ได้หมายถึงปรองดองแก้ปัญหา แต่เป็นการเตะถ่วงเหมือนกัน

เหมือนฝ่ายกุมอำนาจพยายามเสนอโมเดลที่ตัวเอง เอาอยู่ คุมได้ สบายใจ และคิดว่าเกมนี้จะออกมาว่าเขาพยายามแล้ว เสนอแล้ว ขยับแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อให้ตัวเองคงอยู่ในอำนาจ เป็นแค่การเปลี่ยนเก้าอี้ตัวนี้ไปนั่งอีกตัว เสียเวลา ไม่ได้สาระ เป็นแค่เรื่องลมๆ แล้งๆ แค่การเล่นละคร

ประเด็นวันนี้สภาพสังคมเปลี่ยนไปแล้ว แต่ระเบียบกติกาพยายามหน่วงรั้ง ยื้อให้ระเบียบแบบเก่ายังอยู่ เด็กๆ เขาอยากทำให้ระเบียบสอดคล้องสภาพความ เป็นจริง และวันนี้มีคนที่เห็นแบบนี้ขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้รัฐแพ้ในทางการเมืองแล้ว ทั้งโลกออนไลน์ และออฟไลน์บนถนน

ความผิดของนายกฯ คือไม่นำตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง แต่มองว่าตัวเองเข้ามาแก้ปัญหา มาทำให้เกิดความสงบ ไม่เช่นนั้นจะเกิดมิคสัญญีใช้คำพูดปลุกเร้าให้เกิดความแตกแยก ถ้ามีการปะทะกันก็เข้าเงื่อนไข ซึ่งชวนให้คิดไปทางนั้น และถ้าเกิดความรุนแรงก็ยึดอำนาจเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้ก็กุมอำนาจอยู่แล้วเพียงแต่ปกครองไม่ได้

การให้คนที่อยู่ในอำนาจถอนตัวเองออกมาเป็นไปได้ยาก แต่ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น ถ้าคุณไม่มีสำนึกด้วยตัวเองจะรอให้ใครมาบอก ซึ่งเป็นทางเดียวถ้าไม่เกิดความรุนแรงที่รัฐเป็นฝ่ายสร้างเงื่อนไขขึ้นมาเสียก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน