FootNote:กระแสโจมตี ทักษิณ ชินวัตร กับพลังผนึกนปช.เพื่อไทย
พลันที่มีนักวิชา”เกิน” ไม่ว่าจะจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะจากมวลมหาประชาชนกปปส.นำเอาพฤติการณ์ของ โดนัลด์ ทรัมป์ โยงเข้ากับของ นายทักษิณ ชินวัตร
ก็สร้างความฮือฮาเป็นอย่างสูงในทางการเมือง ไม่เพียงแต่จะเป็นคำถามถึงนปช. หากแต่ยังเท่ากับถามตรงไปยังพรรคเพื่อไทย
เพราะว่าพรรคเพื่อไทยคืออวตารหนึ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่จะสัมพันธ์กับพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย หากแต่สัมพันธ์กับทิศทางของนายทักษิณ ชินวัตร อย่างแนบแน่น
ขณะเดียวกัน นปช.เองก็ประกาศอย่างชัดแจ้งว่า เป็นองค์กรภาคประชาชนซึ่งสัมพันธ์กับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย และเกิดขึ้นเพราะไม่พอใจต่อการรัฐประหาร
ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 อันโยงยาวมายังรัฐบาลในปัจจุบันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
สังคมจึงย่อมต้องการรับรู้ว่า ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่านปช.จะมีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อบทบาทของนักวิชา”เกิน”อย่างไร
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของนักวิชา”เกิน”จะเกิดขึ้นในห้วงที่นปช.กำลังระส่ำระสาย เพราะผู้นำคนหนึ่งของนปช. ออกมาวิพากษ์บทบาทของพรรคเพื่อไทยและถึงขั้นเสนอให้ยุบนปช.
กระนั้น หากกล่าวไปแล้วองค์กรนปช.ก็ยังมีสำนัก UDD นิวส์ เป็นเหมือนกระบอกเสียงในการตอบโต้และป้องกันตนเองอยู่
กระนั้น หากกล่าวในแง่ของพรรคการเมืองพรรคเพื่อไทยก็ถือได้ว่าต่อยอดความสำเร็จจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมาได้อย่างเข้มข้น
ยิ่งอยู่ในยุคแห่งการปฏิรูป ปรับตัวเพื่อเชื่อมเข้ากับการเคลื่อน ไหวอันแหลมคมในทางการเมือง ยิ่งเรียกร้องต่อพรรคเพื่อไทยอย่าง เป็นพิเศษว่าจะทำหน้าที่ในการปกป้องพรรคอย่างไร
เป็นการปกป้องด้วย”วิธีวิทยา”อันผ่านการบริหารจัดการ
มิใช่ว่าตอบโต้อย่างเปะปะ ตรงกันข้าม ต้องตีต่อข้อกล่าวหาให้ตกไป ณ เบื้องหน้าประชาชน
พรรคเพื่อไทยมีหัวหน้าพรรค มีเลขาธิการพรรค มีผู้อำนวยการพรรค มีโฆษกพรรค และอยู่ในกระแสแห่งการปรับตัวเพื่อขานรับกับนวัตกรรมใหม่ๆในทางการเมือง
การตอบโต้ข้อกล่าวหาจากปรปักษ์อย่างเป็นระบบ อย่างเป็นกระบวนการจึงมีความจำเป็นเป็นอย่างสูงในการเมืองยุคใหม่
