FootNote:กรณี ฉีดวัคซีน ณ ลอสแองเจลิส สะเทือน ถึง วัคซีน ประเทศไทย
วิวาทะระหว่าง 1 อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กับ 1 นายทอม เครือโสภณ นักธุรกิจ ในประเด็นอันเกี่ยวกับการบินไปฉีดวัคซีนที่นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย
มากด้วยความละเอียดอ่อนเป็นอย่างสูงทั้งในแง่ข้อเท็จจริงและทั้งในแง่เงาสะท้อนของ “รัฐราชการ” ไทย
ไม่ว่าการรีบออกมา “ปฏิเสธ” ว่าเป็นไปไม่ได้จากอธิบดีกรมควบคุมโรค โดยอ้างอิงฐานข้อมูลจากกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
ไม่ว่าการเผยแพร่คลิปแรกของ นายทอม เครือโสภณ ไม่ว่าการตอกย้ำอีกคำรบหนึ่งผ่านคลิปหมายเลข 2 ของ นายทอม เครือโสภณ เท่ากับเป็นการปะทะกันโดยตรง
ที่สำคัญก็คือ เป็นการปะทะระหว่างฐานข้อมูล “โดยตรง” กับฐานข้อมูล “โดยอ้อม”
น่าเสียดายที่ฐานข้อมูลของ “ราชการ” เป็นฐานข้อมูล “โดยอ้อม”
ความเสียหายจึงมิได้อยู่ที่ นายทอม เครือโสภณ เพราะได้รับการฉีดวัคซีนจริง ความเสียหายจึงอยู่ที่ทั้งอธิบดีกรมควบคุมโรค ทั้งอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
เป็นความเสียหายที่ “ความน่าเชื่อถือ” กลายเป็น “ปัญหา”
เป็นความเสียหายเนื่องจากความเคยชินของ “รัฐราชการ” ที่จะต้อง “ปฏิเสธ” ไว้ก่อนเพื่อปัด “ความรับผิดชอบ” ออกจากตัว อันเป็นเรื่องปกติธรรมดายิ่งของระบบราชการ
ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเข้ามาของไวรัส โคโรน่า เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ไม่ว่าการแพร่ระบาดรอบที่ 1 เมื่อเดือนมีนาคม 2563
ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดรอบที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2563 ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดรอบที่ 3 ในเดือนเมษายน 2564
ยิ่งการแพร่ระบาดจากคลัสเตอร์อันเป็นแหล่งชุมชนในกทม.มากกว่า 10 แห่งในเดือนพฤษภาคม ยิ่งเด่นชัด
ไม่ว่าจะมองจากระดับ “อธิบดี” ไม่ว่าจะมองจากระดับ “รัฐมนตรี” ไม่ว่าจะมองไปถึงระดับ “นายกรัฐมนตรี” ปัญหาที่กำลังประสบอยู่ขณะนี้เป็นปัญหาจากรากฐานอย่างเดียวกัน
นั่นก็คือ ปัญหาจาก “ความเชื่อถือ” ปัญหาจาก “ความไว้วางใจ” ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนยิ่งในการบริหารจัดการ
การบริหารราชการโดย “รัฐราชการรวมศูนย์”
