บทบรรณาธิการ : ฟื้นหรือฟุบ

บทบรรณาธิการ : ฟื้นหรือฟุบ

ฟื้นหรือฟุบ : สําหรับผู้ประกอบการและคนทำงานด้านการท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต คงได้กำลังใจขึ้นมากจากแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติตามเงื่อนไขของการฉัดวัคซีน วันที่ 1 ก.ค.

อย่างน้อยยังมีความหวังว่าการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจจะเริ่มตั้งต้น หลังสะดุดนานเกิน 2 เดือน เมื่อโรคโควิด-19 ระบาดทั่วประเทศระลอกสาม

ส่วนผู้ที่เดือดร้อนหนักจากผลกระทบทางเศรษฐกิจชอร์ตรอบใหม่ ได้รับคำตอบจากรัฐบาลแล้วว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยบ้าง

เช่น การเติมเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.65 ล้านคน โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 สำหรับ 31 ล้านคน โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ให้สิทธิไม่เกิน 4 ล้านคน ฯลฯ

ด้วยความคาดหวังว่าจะกระตุ้นการบริโภคขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 1

แต่นอกเหนือจากข่าวให้กำลังใจแล้ว ยังมีความวิตกอีกมุมหนึ่งสำหรับคนทำมาหากินอีกจำนวนมาก

โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผลสำรวจของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร้อยละ 89 ระบุว่าการระบาดระลอกใหม่นี้ทำให้ได้รับผลกระทบมากที่สุด

เรื่องที่น่ากังวลมาก นอกเหนือไปจากกลัวติดเชื้อ คือการขาดสภาพคล่องทางการเงินสำหรับดำเนินธุรกิจ บรรยากาศซื้อขายชะลอตัวและซึมลึก

ด้านสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกเดือนพ.ค.ยังปรับลดต่อเนื่อง ยอดขายลดลงกว่าร้อยละ 30-50 แล้ว

หลายรายระบุว่า สถานการณ์นี้กระทบมีสภาพคล่องทางการเงิน หากยังไม่มีอะไรมาพลิกฟื้น ประเมินแล้วว่าจะประคองกิจการอยู่ได้แค่ 6 เดือน

แม้ว่ารัฐบาลมีแผนกู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท ซึ่งพ.ร.ก.เกี่ยวกับเรื่องนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของสภา วันที่ 9 มิ.ย. โดยยังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลจะอธิบายให้เห็นภาพได้หรือไม่ว่า เงินจำนวนนี้จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจได้อย่างไร

หลังจากที่เคยกู้มาใช้ไปแล้ว 1 ล้านล้านบาท และเคยคาดหวังว่าเงินก้อนดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจ ดีขึ้น

แต่นับจากโควิดระบาดระลอกสาม สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกับความคาดหวัง

สิ่งที่น่าวิตกขณะนี้คือประชาชนมีความเชื่อมั่นหรือไม่ ว่ารัฐบาลจะแก้ไขภาวะฝืดเคืองขณะนี้ได้