สถานการณ์อันเกี่ยวกับการตายของ นักเรียนเตรียมทหารภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” มากด้วยความอ่อนไหว
1 เพราะตายตั้งแต่ยัง”เยาว์”
ทั้งยังเยาว์วัยและเปี่ยมด้วยอนาคตอันรุ่งโรจน์ เพราะเป็นนัก เรียนเตรียมทหาร
1 เป็นการตายอย่างมีเงื่อนงำ
ไม่ว่าจะบนพื้นฐานแห่งกระบวนการ”ธำรงวินัย” ไม่ว่าจะบนพื้นฐานแห่งสุขภาพไม่สมบูรณ์
แต่รายงานของ”แพทย์”ก็เสนอ “คำถาม”
1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากเป็นการตายอย่างมีลักษณะปกปิด อำพราง ร่องรอย
อำพรางแม้เมื่อกลายเป็น”ข่าว”ครึกโครม
ปมแห่งปัญหาอันเนื่องมาจากการตายของ”น้องเมย”มีมากมาย หลายปม ขมวดเข้าด้วยกันอย่างยุ่งเหยิง
เริ่มจาก “แถลง”อย่างเป็น”ทางการ”
ไม่ว่าจะจากโรงเรียนเตรียมทหาร ไม่ว่าจะจากโรงพยาบาลพระมงกุฎ
เมื่อปะเข้ากับ”ผู้ใหญ่”ในแวดวง”ทหาร”
แทนที่จะสร้างความกระจ่างกลับเป็นการเปิดประเด็นใหม่และดำเนินไปอย่างที่บิดาของ”น้อยเมย”ระบุ
“ตีราคาลูกผมต่ำ เหมือนไม่มีราคา”
เพียงมีการกักเก็บ”อวัยวะ”ของผู้ตายโดยไม่มีการแจ้งต่อพ่อแม่และผู้เกี่ยวข้องก็เป็นเรื่องน่ากังขาอย่างยิ่ง
แล้วมาประสบเข้ากับ “คำพูด”ซ้ำเติมเข้าไปอีก
กรณีของ”น้องเมย”จึงมิได้เป็น”เรื่องส่วนตัว”หากแต่ได้กลายเป็นประเด็นในทาง”สาธารณะ”
กลายเป็น”กระแส”ในสังคม
เฉพาะการเผยแพร่ทาง”เฟซบุ๊ก ไลฟ์”ระหว่างหมอกับครอบครัวในการส่งมอบอวัยวะที่โรงพยาบาลพระมงกุฎก็มีคนติดตาม”เรือนล้าน”
ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถบิดเบือน เบี่ยงเบน หรือทำให้เรื่องเงียบหายได้อย่างง่ายๆ เพราะเป็นเรื่องสะเทือนใจ กัดกินอารมณ์
ทังยังเกี่ยวกับ”ความยุติธรรม”และ”ระบบ”
/////////