คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
เวลา ยุบสภา ปักธง “กฎหมายลูก” รัฐบาล ฝ่ายค้าน
ระยะเวลาของกฎหมาย “ประกอบรัฐธรรมนูญ” ประกาศและบังคับใช้มีความสำคัญ
พลันที่ นายวิษณุ เครืองาม วางกำหนดว่าน่าจะเป็นเดือนกรกฎาคม 2565 ก็มีเสียงจากพรรคเพื่อไทยพรรคก้าวไกล ยืนยันไม่น่าจะเกิน 4 เดือน
นั่นก็คือ เป็น 4 เดือนนับจาก “พฤศจิกายน”
ความหมายของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จากที่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งประกาศและบังคับใช้ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
คือพฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์
เสียงยืนยันของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ก็คือไม่น่าจะเกินไปจาก 21 กุมภาพันธ์
ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ กับ เดือนกรกฎาคม ที่กำหนดจาก นายวิษณุ เครืองาม มีความห่างไกลกันเป็นอย่างมาก มีความหมายอย่างมาก
ความหมายของ นายวิษณุ เครืองาม ก็บ่งสะท้อนอย่างหนึ่ง
บ่งสะท้อนว่าแม้ “กฎหมายลูก” จะเรียบร้อยในเดือนกรกฎาคมก็มิได้เท่ากับเลือกตั้งในเดือนนั้น ตรงกันข้ามจะต้องรอไปจนกว่าจะพ้นเดือนธันวาคมเสียก่อน
เพราะเดือนธันวาคมจะมีการประชุม “เอเปก”
เพียงกุมภาพันธ์ กับ กรกฎาคม สำหรับ “กฎหมายลูก” ก็สะท้อนเป้าต่างในทางการเมือง
ความหมายของ นายวิษณุ เครืองาม สะท้อนให้เห็นว่าเป้าหมายของรัฐบาลน่าจะเป็นต้นปี 2566 คืออยู่ครบตามวาระอันมีเดือนมีนาคม 2562 เป็นจุดเริ่มต้น
แต่ความหมายของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวหน้าเป็นต้นปี 2565
นั่นก็คือ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรอไปอีกเนิ่นนานในเมื่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็เรียบร้อย ในเมื่อการจัดทำกฎหมายลูกก็ไม่น่าจะเกิน 4 เดือน
นี่คือเป้าหมายและการเล็งประโยชน์ต่างกันในทางการเมือง
ความน่าสนใจก็คือ ข้อกำหนดของรัฐบาลกับข้อกำหนดของฝ่ายค้านอย่างไหนจะเป็นจริง
ตามความเคยชินก็ย่อมให้ความสำคัญกับฝ่ายรัฐบาลเพราะอยู่ในฐานะมีอำนาจและเป็นผู้ตัดสินใจกระนั้น ก็มองข้ามบทบาทของฝ่ายค้านไปไม่ได้
เพราะฝ่ายค้านย่อมต้องอาศียพลังทางสังคมมาเป็นเครื่องมือในการกดดัน