ยังเจรจาหาทางออกไม่ได้ ระหว่างกองทัพเรือไทยกับประเทศจีน กรณีประเทศเยอรมนียังไม่ยอมขายเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับใส่เรือดำน้ำที่ไทยสั่งซื้อจากจีน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อเรือ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าให้นโยบายไปแล้วให้ดำเนินการให้สำเร็จ เพราะอยู่ในสัญญา แต่หากไม่ได้ก็คือไม่ได้ ต้องทำใหม่
นายกฯ ย้ำว่าเรื่องนี้มีคณะกรรมการพิจารณา มีขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และถ้าไม่ได้เครื่องยนต์เยอรมนี หาเครื่องยนต์ใหม่ยอมรับได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ยกเลิกสัญญาแล้วจัดหาใหม่
คำว่าต้องทำใหม่ หรือจัดหาใหม่ ประชาชนได้รับฟังแล้วไม่สบายใจ อย่างยิ่งต่อโครงการเรือดำน้ำจีน

โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน 3 ลำ เฉลี่ยลำละกว่า 1 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับท่าจอดเรือ และส่วนอื่นๆ อีก รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 4 หมื่นล้านบาท
ตามกำหนดปี 2566 จีนจะต้องส่งเรือดำน้ำ ลำแรกให้ไทย แต่ติดขัดเรื่องเครื่องยนต์ เนื่องจากเยอรมนีระงับส่งออกเครื่องยนต์ดีเซลเรือดำน้ำ ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม การส่งออกต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเยอรมนี
กองทัพเรือชี้แจงว่า เป็นปัญหาที่จีนต้องแก้ไข เนื่องจากกองทัพเรือยืนยันความต้องการเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับเรือดำน้ำจากเยอรมนี ตามข้อตกลงไปแล้ว
พร้อมย้ำว่าจีนต้องทำตามข้อตกลง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาหาทางออกแก้ปัญหาร่วมกัน

เรือดำน้ำจีนเป็นโครงการมูลค่ามหาศาล มีข้อถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงความจำเป็นเหมาะสมในท่ามกลางโรคระบาด และเศรษฐกิจดิ่งทรุด
ซ้ำกว่านั้นในเมื่อตกลงทำสัญญาซื้อกันแล้ว กลับประสบปัญหาการติดตั้งเครื่องยนต์ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ หากขัดข้องหรือมีปัญหาขณะดำใต้น้ำ จะเกิดอันตรายต่อกำลังพลในเรือ
จึงเกิดข้อสงสัยที่ผ่านมาได้ศึกษาละเอียดรอบคอบ–ดีพอหรือไม่ต่อโครงการนี้ แล้วไม่รู้หรือเครื่องยนต์เรือดำน้ำเยอรมนีเป็นสินค้าควบคุม ไม่ใช่ซื้อขายกันง่ายๆ
แม้รัฐบาลย้ำต้องซื้อให้ได้ ถึงขั้นยกเลิกสัญญาแล้วจัดหาใหม่ก็ต้องทำ แต่ปัญหาคือ เวลาโอกาสที่สูญเสียไปจะรับผิดชอบอย่างไร และจะกระทบงบประมาณ ภาษีประชาชนอีกหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน