ปัญหาข้อพิพาทที่ดินระหว่างชาวบ้านชาติพันธุ์อูรักลาโว้ย ซึ่งเป็นชาวเลกลุ่มใหญ่บนเกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล กับนายทุนเอกชนยังคาราคาซัง พร้อมที่จะทวีความรุนแรงและตึงเครียดได้ทุกขณะ
โดยล่าสุดมีการอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ซึ่งเป็นแปลงที่ยังเป็นปัญหา อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมที่ดิน และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ก่อสร้างสิ่งกีดขวางเส้นทางเดินเข้าออกของชาวบ้าน
บริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินเข้าออกพื้นที่ของชาวบ้านมาแต่ดั้งเดิมนับร้อยปี เพื่อสัญจรขึ้นลงทะเลไปประกอบอาชีพขนส่งข้าวของต่างๆ และเป็นทางเดินไปโรงเรียน
แม้อีกฝ่ายจะอ้างถึงกรรมสิทธิ์ แต่ฝ่ายชาวบ้านตั้งข้อสังเกตถึงที่มาถูกต้องชอบธรรมหรือไม่
สําหรับความขัดแย้งเกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนพ.ย.2565 เมื่อเอกชนอ้างกรรมสิทธิ์ ครอบครองที่ดิน สร้างรั้วปิดกั้นทางเข้าออกพื้นที่ ท่ามกลางการคัดค้านของชาวบ้าน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการทำมาหากิน และส่งผลถึงการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
ต่อมานายกรัฐมนตรีสั่งการรมต.ประจำสำนักนายกฯ ลงมาแก้ปัญหา พร้อมแต่งตั้งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริง
จากนั้นพล.ต.อ.สุรเชษฐ์นำเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูล พร้อมทั้งให้ฝ่ายปกครองประสานฝ่ายเอกชนรื้อถอนประตูปิดกั้นเส้นทาง
แต่พอคล้อยหลังจากการลงพื้นที่ ก็กลับมาสร้างสิ่งกีดขวางขึ้นใหม่ ยิ่งสร้างความขัดแย้งอีก
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่า รับทราบสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว พร้อมชี้แจงขณะนี้กรมที่ดินกำลังพิจารณาเพิกถอน และหากเพิกถอนแล้ว สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ต้องรื้อทั้งหมด
นอกจากนี้ยังประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ว่าการก่อสร้างขออนุญาตหรือไม่ หากไม่ขออนุญาตก็ต้องแจ้งความดำเนินคดี ส่วนการตรวจสอบพื้นที่คาดใช้เวลา 1-2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายชาวบ้านยังมีความกังวลต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลจะล่าช้าเกินไปหรือไม่ ทั้งที่รับทราบข้อพิพาทมานานแล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่กระตือรือร้น และเอาใจใส่ต่อปัญหา เท่าที่ควร
จึงเรียกร้องกระตุ้นไปยังรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหามากกว่าเดิม เพื่อคืนความสงบสุขให้ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ