บทบรรณาธิการ - เงื่อนไขรุนแรง

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงชายแดนภาคใต้เชิญผู้นำศาสนา ครูสอนศาสนา และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ไปซักถาม

สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนก.ค.2566 มีการจัดกิจกรรมกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ในพื้นที่ของโรงเรียนตาดีกา เป็นศูนย์ศึกษาอบรมเด็กเล็กของชาวไทยมุสลิม และในขบวนพาเหรดมีเด็กถือรูปภาพผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม

นอกจากผู้นำศาสนา ครูสอนศาสนา และผู้นำชุมชนแล้ว เจ้าหน้าที่ยังนำตัวเด็กชายอย่างน้อย 4 คน พร้อมผู้ปกครอง ไปซักถามและตรวจสอบยังหน่วยราชการด้วย

กรณีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง มีข้อกังวลจากประชาชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่

ต่อมากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า เรียกประชุมหน่วยต่างๆ ตลอดจนหน่วยงานการศึกษาเอกชน ผู้นำศาสนา และผู้นำชุมชน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมสัมพันธ์

โดยอ้างถึงการสร้างความเข้าใจ เพราะกิจกรรมมีพฤติกรรมที่อาจดูไม่เหมาะสม ส่งผลกระทบความรู้สึกทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่อย่างกว้างขวางตามมุมมองของหน่วยความมั่นคง

สุดท้ายหนึ่งในหัวข้อประชุม คือต่อไปหากชุมชน หรือหมู่บ้านจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าว จะต้องได้รับอนุญาต มีการกำหนดแนวทาง และมาตรการต่างๆ โดยอ้างเพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีจะเข้ามาแสวงหาประโยชน์

ในแง่หนึ่งเป็นเรื่องสมควร แต่อีกด้านก็กังวลจะเป็นการปิดกั้นวิถีชีวิต อัตลักษณ์ ความคิด ความเชื่อของประชาชนในพื้นที่หรือไม่

จากการจัดกิจกรรมสัมพันธ์ และนำไปสู่การนำเด็กเล็กไปตรวจสอบซักถามนั้น ภาคประชาสังคมเรียกร้องให้หน่วยความมั่นคงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเคารพ คุ้มครอง และปกป้องสิทธิเด็ก

อีกทั้งการจัดกิจกรรม และเดินขบวนพาเหรดถือรูปตามที่หน่วยความมั่นคงตั้งคำถาม อันที่จริงแล้วควรจะมองเป็นการแสดงออกอย่างสันติวิธี เพื่อสะท้อนปัญหาที่มีอยู่จริงในพื้นที่

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่จะต้องปรับแก้ไขแนวทางการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายปิดล้อมจู่โจมบ้านเป้าหมายที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ทำให้ความรุนแรงลดน้อยลงแต่อย่างใด

แม้ยุทธการตอบโต้จากทางการจะชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็ควรตระหนักด้วยว่าสิ่งเหล่านี้กำลังเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความรุนแรงไม่สิ้นสุด