FootNote สถานการณ์ ของ แป้ง นาโหนด “อาชญากรรม”แปรเป็น”การเมือง”
กรณีของ แป้ง หนาโหนด ก่อให้เกิดสถานการณ์อันมีลักษณะท้า ทายแหลมคมเป็นลำดับ
ไม่ว่าจะตอน”แหกคุก” ไม่ว่าจะตอนขึ้นสู่เทือกเขา”บรรทัด”
ยิ่งรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนภายในกระบวนการ”แหกคุก”มีการรายงานออกมามากเพียงใด ผลสะเทือนจะไม่จำกัดอยู่ เพียง”นครศรีธรรมราช” หากแต่น่าจะถึง”กรมราชทัณฑ์”
และพลันที่ทุกกระแสข่าวรวมศูนย์ไปอยู่ที่เส้นทางของ แป้ง หนาโหนด มิใช่หนีออกนอกประเทศ หากแต่ย้อนกลับไปยังเทือกเขาบรรทัดอันเป็นตำนาน
การระดมพยุหโยธาจำนวนเกือบ 500 นายจากทางด้านตรัง จากทางด้านพัทลุงเข้าไปเพื่อจัดการกับ แป้ง หนาโหนด คนเดียวทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่ยึดครองพื้นที่ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์
เวลาผ่านไปกว่า 1 เดือนโดยที่ยังไม่สามารถเห็นเงาร่างของ แป้ง หนาโหนด ก็ปรากฏ”คลิปเสียง” แป้ง หนาโหนด ดังขึ้นผ่าน ช่องทางโซเชียล มีเดีย
คลิปหมายเลข 1 ยังไม่พอ หากยังตามมาด้วยหมายเลข 2
สะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงความยอกย้อนซ่อนปมอันสัม พันธ์กับกรณี แป้ง หนาโหนด อย่างพิสดารพันลึก
จึงถูกต้องแล้วที่เกิดการขยับจากกระทรวงยุติธรรม จึงถูกต้องแล้วที่เกิดการขยับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เพียงแต่จะยืนยันถึงความจำเป็นในการจับตัว แป้ง หนาโหนด
หากที่สำคัญและแหลมคมมากยิ่งกว่านั้นยังเป็นเครือข่ายอัน สะท้อนลักษณะขบวนการของปรากฏการณ์ใหม่ที่บังเกิด
คำถามมิได้อยู่ที่ว่า แป้ง หนาโหนด หลุดรอดเงื้อมมือของเจ้า หน้าที่ไปได้อย่างไร ตั้งแต่จากคุกไปบนเทือกเขาบรรทัด หากยังอยู่ที่จากเทือกเขาบรรทัดลงมายังพื้นราบได้อย่างไร
ที่แหลมคมและร้อนแรงมากยิ่งขึ้นยังอยู่ที่”เนื้อหา”ในการพูด เนื้อหาในการโพสต์และได้รับการเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางก็คือ
เส้นสนกลในแห่งรูปคดีของ แป้ง หนาโหนด
สังคมอาจประเมินว่าดำเนินไปเหมือนกับเป็นการแก้ต่างและ
สร้างความชอบธรรม แต่ทุกเรื่องย่อมเป็นประเด็น เป็นคำถาม
ทุกปฏิบัติการของ แป้ง หนาโหนด จึงสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดำรงอยู่และกำลังดำเนินไปภายในกระบวนการยุติธรรม อย่างชนิดที่ตีกลางแสกหน้า
ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ครบถ้วน สมบูรณ์
จึงมีความจำเป็นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องจัดการ จึงมีความจำเป็นที่กรมราชทัณฑ์ และสำนักงานอัยการสูงสุด จะ ต้องทำความกระจ่าง
หากปล่อยให้สถานการณ์ แป้ง หนาโหนด ดำเนินไปเหมือนกับที่เป็นข่าวจากเทือกเขาบรรทัดก็สยองเป็นอย่างสูง