กรณีที่ประชุม ครม.มีมติตามข้อเสนอของพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม โยกย้ายพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม

ทำให้สังคมบางส่วนเกิดความกังวลต่อคดีหมูเถื่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดภายใต้ความรับผิดชอบของดีเอสไอ จะหยุดชะงัก จนสาวไปไม่ถึงตัวการใหญ่ หรือไม่

อย่างไรก็ตาม รมว.ยุติธรรมระบุถึงคุณสมบัติความรู้ความสามารถของพ.ต.ต.สุริยา ว่ามีความเหมาะสมต่อตำแหน่งรองปลัดกระทรวง การปรับย้ายไม่ใช่การกลั่นแกล้ง หรือมีอคติ และไม่เกี่ยวข้องกับคดีหมูเถื่อน

ยืนยันดีเอสไอจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ

พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ยืนยันเช่นกันว่า การย้ายอธิบดีไม่มีผลกระทบต่อการทำคดีหมูเถื่อน เพราะคณะพนักงานสอบสวนมีแผนแนวทางกำหนดไว้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาติดขัด

แม้จะเจอนายทุนใหญ่ ก็จะดำเนินการตามกรอบอำนาจกฎหมายและพยานหลักฐาน

ในการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามคดีหมูเถื่อน ล่าสุดที่ประชุมมีมติขยายคดีพิเศษเป็น 10 คดี ในจำนวนนี้ 9 คดีขยายผลจากการจับกุมบริษัทขนส่ง 10 บริษัทนำเข้าหมูเถื่อน 2,388 ตู้ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้

กับอีก 1 คดีพิเศษเป็นการนำเข้าหมูเถื่อนตั้งแต่ปี 2564-2566 จำนวนหลายพันตู้ และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน

ปฏิบัติการปราบหมูเถื่อน เป็นไปตามคำสั่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมตัวการใหญ่ให้ได้

ในส่วนของดีเอสไอ หลังการโยกย้ายอธิบดี ก็ไม่ได้ทำให้คดีหยุดชะงักลงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล พนักงานสอบสวนดีเอสไอยังคงเดินหน้าขยายผลอย่างต่อเนื่อง

ขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน เป็นองค์กรอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหาร และอาชีพของเกษตรกร โดยมีบุคคลหลายระดับทั้งนายทุน เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการฝ่ายการเมือง อดีตข้าราชการ ไปจนถึงนักการเมืองอดีตรัฐมนตรี เข้าไปเกี่ยวข้อง

การสาวไปถึงตัวการใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลัง จึงไม่เพียงท้าทายฝีมือของดีเอสไอ แต่ยังเป็นเครื่องวัดความตรงไปตรงมาของรัฐบาลต่อคดีหมูเถื่อนอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน