นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่จังหวัดน่าน และประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

เพื่อสอบถามถึงอุปสรรคต่างๆ ระหว่างการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน รวมถึงความคืบหน้าของการแก้ปัญหาและการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีแนวคิดให้ทุกจังหวัดจัดตลาดนัดแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยใช้วันหยุดราชการในวันเสาร์หรืออาทิตย์ จัดขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดด้วย

มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง และกระทรวงการคลัง ร่วมกันเปิดรับฟังปัญหาอย่างบูรณาการ โดยหวังว่าหนี้นอกระบบจะต้องทำให้จบสิ้นภายในรัฐบาลนี้

ตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม กระทรวงมหาดไทยรายงานล่าสุดว่ามีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 1 แสนราย รวมมูลหนี้ทั้งหมดเกือบ 7 พันล้านบาท

ส่วนใหญ่เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์มากกว่าเดินทางไปที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบด้วยตนเอง

พื้นที่และจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุดได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครศรีธรรมราช สงขลา นครราชสีมา และขอนแก่น

จังหวัดที่ยังมีผู้ร่วมลงทะเบียนเป็นจำนวนน้อยอยู่ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ระนอง สมุทรสาคร ตราด และสิงห์บุรี ซึ่งประเมินว่าประชาชนอาจจะยังไม่มีความมั่นใจนัก

ระหว่างการเปิดรับลงทะเบียนนั้น ก็จัดไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบไปด้วย มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการแล้ว 1,500 ราย ประสบผลสำเร็จกว่า 300 ราย มูลหนี้ลดลงกว่า 100 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ รัฐบาลยืนยันจะไม่เข้าไปชดใช้หนี้แทนลูกหนี้และไม่มีนโยบายยึดคืนหนี้จากเจ้าหนี้ เพียงแต่เข้าไปบริหารจัดการให้เกิดความเป็นธรรมในการกู้ยืม

ส่วนหนึ่งคือการดึงเอาหนี้นอกระบบเหล่านั้นเข้าไปอยู่ในระบบ โดยมีธนาคารรัฐเป็นแหล่งเงินทุน อีกทั้งยังตัดวงจรหนี้ที่เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดจนสร้างปัญหาต่างๆ ตามมาด้วย

หลังเปิดให้ลงทะเบียนครบระยะเวลาหนึ่ง รัฐบาลจะต้องนำมาประเมินผลและวางแผนต่อไปว่าจะดึงเอาหนี้นอกระบบที่ยังเหลืออยู่เป็นจำนวนมหาศาลเข้าสู่ระบบอีกได้อย่างไร

แนวความคิดให้ทุกจังหวัดจัดตลาดนัดแก้หนี้ อาจจะเป็นการกระตุ้นให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ที่เหลือมาร่วมพูดคุยหาทางออกร่วมกันได้อีกทางหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นตัวกลาง ซึ่งจะต้องติดตามต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน