นับเป็นข่าวดีด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยต้อนรับศักราชใหม่ 2567 เมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าไทยและจีนบรรลุข้อตกลงยกเว้นวีซ่า 2 ประเทศ ที่จะเดินทางเข้า-ออกระหว่างกัน เป็นการถาวร ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป

หลายฝ่ายมองการประกาศยกเว้นวีซ่าไทย-จีน เป็นการถาวร จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตมากขึ้นด้วยรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว หลังจากปีที่ผ่านมา 2566 หลุดเป้าไปพอสมควร

จากที่คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย 40 ล้านคน ทว่า สถิติที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผย พบว่า เข้ามาเพียง 28 ล้านคน

โดย 5 อันดับแรก มาจากมาเลเซีย 4.5 ล้านคน รองลงมาเป็นจีน 3.5 ล้านคน เกาหลีใต้และอินเดีย สัดส่วนใกล้เคียงกัน 1.6 ล้านคน และรัสเซีย 1.4 ล้านคน

ก่อนหน้านี้ไทยยกเว้นวีซ่าชั่วคราวให้กับจีนในการพำนักในไทย 30 วัน ช่วงเวลา 5 เดือน ตั้งแต่ 25 กันยายน 2566 สิ้นสุด 29 กุมภาพันธ์ 2567

แต่จากข้อตกลงร่วมกันล่าสุด ในการออกมาตรการยกเว้นวีซ่าเป็นการถาวร ตั้งแต่ 1 มี.ค.2567 เป็นต้นไป ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย เพิ่มขึ้นประมาณ 6-7 ล้านคน

ประเมินจากเทศกาลตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ หากมียอดจองเที่ยวบินเดินทางมาไทยมากขึ้น น่าจะเป็นสัญญาณดีถึงความเป็นไปได้ ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีนจะเพิ่มขึ้นในปีนี้

อย่างไรก็ตาม มาตรการยกเลิกวีซ่าถาวรของ 2 ประเทศ ไม่เพียงเป็นผลดีกับไทย ในทางกลับกันมาตรการนี้ก็สะท้อนได้ว่า จีนก็ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อดึงรายได้เข้าประเทศเหมือนกับไทยเช่นกัน

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวอ้างอิงสื่อจีนเปิดเผยว่า หลังการประกาศปลดล็อกวีซ่าไทย-จีน อย่างถาวร ปรากฏว่าตัวเลขการค้นหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทย บนเว็บไซต์การท่องเที่ยวของจีนพุ่งสูงขึ้นทันทีถึงร้อยละ 90

รวมถึงปริมาณการค้นหาตั๋วเครื่องบินมาไทย เพิ่มขึ้นทันทีกว่า 2 เท่า โดยกรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และกระบี่ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม

สะท้อนได้ว่าตลาดการท่องเที่ยวขาออกของจีนที่ซบเซามาหลายปี กําลังฟื้นตัว โดยไทยเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดสําหรับนักท่องเที่ยวจีน

มาตรการยกเว้นวีซ่าแบบถาวร จึงเป็นสัญญาณบวกต่อสถานการณ์การท่องเที่ยว ท่ามกลางความหวังเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะกลับมาฟื้นตัวได้ โดยมีการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนตัวสำคัญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน