ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท กล่าวอ้างเป็นข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อคณะรัฐมนตรีตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 32
ต่อมา นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ชี้แจงว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่มีความเห็นใดๆ เกี่ยวกับโครงการดังกล่าวเพราะต้องรอคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ละท่านส่งความเห็นสรุปกลับมาก่อนจะมีมติ และส่งความเห็นไปยังรัฐบาล
ด้านนายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุ ข้อเสนอแนะดังกล่าว มาไม่ถูกจังหวะ เร็วไป ไม่เหมาะสม
เนื่องจากปัจจุบันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อยู่ระหว่างพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายโครงการ ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายโครงการจะทำหน้าที่กำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์ แนวทางดำเนินโครงการ หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการ
รวมถึงพิจารณาข้อเท็จจริง ความเห็น ข้อสังเกตของกรรมการแต่ละท่าน จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนอย่างรอบคอบรอบด้าน เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จจะเสนอ ครม.พิจารณา
หาก ครม.เห็นชอบก็จะเข้าสู่ขั้นตอนเสนอร่างพ.ร.บ.กู้เงิน ต่อสภาผู้แทนราษฎร ตัวแทนประชาชนร่วมพิจารณารายละเอียดต่างๆ ของโครงการ หากได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ก็ยังมีกระบวนการตรวจสอบจากศาลรัฐธรรมนูญ
ท้ายสุดหากศาลฯ วินิจฉัยว่า ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ก็จะเข้าสู่การประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
กระบวนการต่างๆ นี้ เป็นกระบวนการตรวจสอบโครงการของรัฐบาลตามวิถีทางประชาธิปไตย
แม้ข้อเสนอแนะที่องค์กรหรือภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการอยู่จะเป็นเรื่องดี แต่การตรวจสอบต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่เป็นข้อยุติ ไม่ควรสมมติฐานหรือคาดหมายล่วงหน้าในสถานการณ์ไกลเกินกว่าที่ควรเป็น
เมื่อปัจจุบันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายฯ ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ เพื่อที่จะกู้เงิน การเร่งรีบให้ข้อเสนอแนะจึงอาจเร็วไป ไม่ถูกจังหวะ จนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตทัดเทียมประเทศอื่นๆ
ที่สำคัญการเสนอแนะท้วงติง ต้องมุ่งก่อประโยชน์ต่อส่วนรวม อย่าเป็นเกมการเมืองที่เป็นการตัดโอกาสประชาชนกว่า 50 ล้านคน ที่ต่างเฝ้ารอและทวงถามโครงการดังกล่าวต่อรัฐบาลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอีกด้วย