เป็นประเด็นใหญ่ทางการเมือง ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับคำร้องชี้ขาดคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน และมีมติ 5 ต่อ 4 ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
สืบเนื่องจาก สว. 40 คนเข้าชื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลฯ วินิจฉัย กรณีนายกฯ ทูลเกล้าฯ รายชื่อแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งที่รู้ว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยศาลสั่งให้นายกรัฐมนตรียื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ตามปฏิบัติการยื่นถอดถอนนายกฯ ของ 40 สว.ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหมดอำนาจ ถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่าย รวมถึง สว.ด้วยกันเอง ว่ามีเกมการเมืองแอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่
นับตั้งแต่ก่อตั้งศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2540 มีนายกรัฐมนตรี 4 คน ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
คนแรก นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2544 ถูกร้องคดี “ซุกหุ้น” สุดท้ายศาลมีมติ 8 ต่อ 7 ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่าไม่มีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่ากระทำผิด
คนต่อมา นายสมัคร สุนทรเวช คดีเป็นพิธีกรรายการ “ชิมไป บ่นไป” ศาลมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 เรื่องคุณสมบัติ ความเป็นนายกฯ จึงสิ้นสุดลง
คนที่สาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกร้องในคดีย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ศาลมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ว่าเป็นการใช้ตำแหน่งนายกฯ ก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย
ทำให้ความเป็นนายกฯ สิ้นสุดลง เพียงไม่กี่วันก่อนเกิดรัฐประหาร 22 พฤษภาฯ 57
หลังเลือกตั้งปี 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ สมัยสอง ช่วงปี 2562 ถึง 2565 ถูกยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ 4 เรื่อง รอดพ้นทุกคดี ได้แก่ คดีบ้านพักหลวง คดีการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ คดีคำถวายสัตย์
และคดีนายกฯ 8 ปี ที่แม้ช่วงรับคำร้อง ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่อีกเกือบ 1 เดือนต่อมา ศาลมีคำวินิจฉัยว่าตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สิ้นสุดลง
เมื่อไล่เรียงตามลำดับ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ที่ถูกยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้สิ้นสภาพ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
สิ่งที่สังคมคาดหวังคือ คำวินิจฉัยที่จะออกมาในห้วงเวลาไม่นานเกินไปนัก เพื่อให้ประเทศเดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอะไรมาทำให้สะดุด
