น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงร่วมกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระหว่างเดินทางไปเยือน และประชุมร่วมกันหลายเรื่อง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567
โดยหัวข้อหลักคือทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการค้า การลงทุน การเชื่อมโยงชายแดน รวมถึงส่งเสริมศักยภาพความร่วมมืออุตสาหกรรมยางและฮาลาล ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ ไทยและมาเลเซียจะเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายการค้า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท ภายในปีค.ศ.2027 หรือพ.ศ.2570
รวมทั้งสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ของไทย ที่ 2 ประเทศเห็นพ้องกันว่าการจัดการปัญหาต้องไม่ใช้ความรุนแรง
ระหว่างการแถลงร่วมกัน นายกฯ มาเลเซีย ยังประกาศว่าจะแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งจะถึงวาระของมาเลเซียในปี 2568 และนายกฯ มาเลเซียกล่าวขอบคุณที่อดีตนายกฯ ไทย ตอบตกลง
กรณีนายกฯ มาเลเซีย แต่งตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวนั้น น.ส.แพทองธาร นายกฯ ไทย ร่วมแสดงความเห็น โดยเชื่อว่าจะมีบทบาทในการพัฒนาภูมิภาคอาเซียน
เนื่องจากนายทักษิณเคยเป็นนายกฯ มาเป็นเวลา 6 ปี มีความสนิททั้งอดีตนายกฯ และนายกฯ ปัจจุบันของมาเลเซีย โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายได้พูดคุยต่อเนื่องมาโดยตลอด
การแต่งตั้งดังกล่าวของนายกฯ มาเลเซีย นอกจากความใกล้ชิดแล้ว เชื่อว่าน่าจะเห็นคุณค่า ประสบการณ์ และศักยภาพของอดีตนายกฯ ไทย
การที่นายกฯ เดินทางไปเยือนมาเลเซีย พร้อมกับประชุมความร่วมมือด้านต่างๆ รวมถึงการที่แต่งตั้งอดีตนายกฯ ไทย เป็นที่ปรึกษานายกฯ มาเลเซีย แสดงถึงความสัมพันธ์อันพิเศษของ 2 ประเทศ
ความสัมพันธ์และร่วมมือดังกล่าว ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ทั้งเรื่องการค้าการลงทุน ท่องเที่ยว ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม อุตสาหกรรมฮาลาล การพัฒนาพื้นที่ชายแดน โครงสร้างพื้นฐาน และความเป็นอยู่ประชาชน เป็นต้น
อีกประการสำคัญคือ การแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนภาคใต้ ที่มาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกประสานการพูดคุยกับฝ่ายขบวนการเห็นต่าง
นอกจากเรื่องเศรษฐกิจการค้า และการพัฒนาแล้ว หวังว่าจะนำไปสู่การผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพชายแดนภาคใต้ด้วย