น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ.2568

ในโอกาสดังกล่าว นายกฯ จะได้เข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน รวมทั้งยังจะได้หารือร่วมกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์

โดยนายกฯ ตอบคำถามถึงการหารือกับผู้นำถึงปัญหาแก๊งคอลฯ ว่าเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะไปคุยกับประธานาธิบดีจีน คิดว่าจีนก็อยากได้ความร่วมมือกับไทย

นายกฯ เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือ เพราะทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และปีนี้ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน

ภัยแก๊งคอลฯ เป็นปัญหาใหญ่ที่คุกคามและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในขณะนี้ ล่าสุดคณะรัฐมนตรีเห็นชอบพ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหา

โดยมีสาระสำคัญ อาทิ ให้สถาบันการเงิน เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ สื่อสังคมออนไลน์ ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ต้องมีหน้าที่ระงับการใช้งานซิมการ์ดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทันที

เร่งรัดกระบวนการคืนเงินให้ผู้เสียหาย ที่จากเดิมใช้เวลาเป็นปี ก็จะเหลือ 6 เดือน หรือคืนทันที และเพิ่มบทลงโทษสำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

ขณะนี้พ.ร.ก.อยู่ในขั้นตอนการตรวจของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดประกาศบังคับใช้ได้ภายในเดือนก.พ.2568

อาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลฯ เป็นภัยที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน หลายรายสูญเสียเงินหมดตัว บางรายนำไปสู่การจบชีวิต เพราะความเครียดสิ้นเนื้อประดาตัว

ขณะที่การป้องกัน ปราบปราม และจับกุมมักไปไม่ถึงตัวการสำคัญ เพราะฝ่ายมิจฉาชีพจะใช้วิธีการอันแยบยลมากขึ้น และมีฐานปฏิบัติการอยู่ตามแนวชายแดน มีกลุ่มคนต่างชาติ และชาวจีนที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่น้อย

ดังนั้นการป้องกันปราบปรามจับกุม จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งจากประเทศจีนด้วย หวังว่าการไปจีนของนายกฯ จะนำไปสู่ความร่วมมือที่มากขึ้น

ตลอดจนการแก้กฎหมายเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันปราบปราม และลดความเสียหายแก่ประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน