ภาคประชาชนเข้ายื่นเรื่องถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการวุฒิสภา เพื่อเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560

โดยในวันที่ 13-14 ก.พ.2568 ที่ประชุมรัฐสภา ทั้ง สส.และ สว.จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อเปิดทางนำไปสู่การมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เข้ามาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ตามมาตรา 256 บัญญัติว่าการออกเสียงลงคะแนนในวาระที่หนึ่ง ขั้นรับหลักการ ต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของทั้ง 2 สภา ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมี สว.เห็นชอบเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา

ดังนั้น สว.จึงเป็นเสมือนกุญแจสำคัญ ที่จะปลดล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเข้าสู่การพิจารณานั้น มี 2 ร่าง คือร่างของ สส.พรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล และร่างของ สส.พรรคประชาชน พรรคแกนนำฝ่ายค้าน

โดยเนื้อหาหลักของทั้ง 2 ร่างต่างเห็นตรงกัน คือเพื่อนำไปสู่การมีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ตลอดจนการตัดอำนาจสว. เกี่ยวกับเกณฑ์ในการลงมติวาระที่หนึ่งในขั้นรับหลักการ โดยให้ใช้เสียงของ สส.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นหลักสำคัญ

ส่วนที่เหลือจากนั้นแตกต่างกันในรายละเอียด คงจะอภิปรายแลกเปลี่ยนกันต่อไปในที่ประชุมรัฐสภา

รัฐธรรมนูญ 2560 เกิดขึ้นโดยคณะรัฐประหารเมื่อปี 2557 ซึ่งมีบทบัญญัติและเนื้อหาที่ไม่เป็นผลดีต่อพัฒนาการทางประชาธิปไตย และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ

ถูกเขียนขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารและเครือข่าย มีประกาศและคำสั่งแฝงอยู่ในรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำงานลำบาก ส่งผลให้การช่วยเหลือประชาชนไม่ราบรื่น

ที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองจากการเลือกตั้ง และภาคประชาชน พยายามแก้ไขทั้งฉบับมาโดยตลอด แต่ก็ถูก สว.ชุดเก่า 250 คนลงมติคว่ำ ยอมให้ทำได้แค่เพียงแก้ไขวิธีการเลือกตั้ง สส.เท่านั้น

ในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ นับเป็นครั้งแรกที่ สส.และ สว.ชุดปัจจุบัน จะประชุมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะฝั่ง สว.จะถูกจับตามองว่าจะลงมติให้ผ่านในวาระแรกหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน