เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 7 พ.ค. ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เดินทางโดยเครื่องบิน ซี-130 ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ เพื่อติดตามรับฟังปัญหาของประชาชน และประชุม ครม.สัญจร นอกสถานที่ ซึ่งจะพิจารณาโครงการช่วยเหลือและผลักดันศักยภาพของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง 1 ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ต่อมาเวลา 09.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมรับฟังการดำเนินงานของจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า การเปิดจุดผ่านแดนถาวรจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะจะเปิดทุกที่ไม่ได้ จะมีปัญหา โดยเฉพาะรัฐบาลต้องดูเรื่องความมั่นคงด้วย รัฐบาลจะให้ตามพื้นที่ที่มีศักยภาพ ดังนั้นทุกกิจกรรมต้องมองด้านความเชื่อมโยง นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเรื่องสินค้าลิขสิทธิ์ ขอให้มีแต่สินค้าที่มีคุณภาพ อย่าปลอมปนหรือสวม อย.


จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ร่วมร้องเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย ร่วมกับตัวแทนชาวบ้านและคณะกรรมการพัฒนาสตรีกาบเชิง ที่สวมชุดพื้นเมืองมาต้อนรับประมาณ 150 คน ซึ่งชาวบ้านบางส่วนได้นำกระดาษที่มีเนื้อเพลงหรือนำมือถือที่มีเนื้อเพลงขึ้นมาอ่านและร้องตาม เนื่องจากยังจำเนื้อเพลงดังกล่าวไม่ได้

อย่างไรก็ตาม นายกฯ กล่าวชื่นชมว่าทุกคนร้องเพลงเพราะมาก ไม่รู้ใครแต่งเพลงนี้ ซึ่งเพลงของตนมี 6 เพลงขอให้ร้องให้ได้ เพราะเป็นเพลงของพวกเราทุกคนที่ตนเขียนขึ้นมา ทั้งหมดออกมาจากหัวใจ ไม่ได้ทำให้ทุกคนรักตน แต่ต้องการให้รักประเทศชาติ ตนก็ทำเพื่อประเทศชาติ แต่ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน รัฐบาลทำอย่างเดียวไม่ได้ และใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้เช่นกัน

“ผมไม่มุ่งหวังทำร้ายใครและไม่ได้ทำลายรายได้ของประชาชน แต่หลายอย่างจำเป็นต้องจัดระเบียบ หลายคนจึงไม่รักเรา เพราะหากินยาก เศรษฐกิจแย่ ขอให้ไปบอกด้วยว่าเศรษฐกิจไม่ได้แย่ขนาดนั้น ยืนยันว่าเข้ามาไม่ได้ทำอะไรให้เสียหาย แต่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ถามว่าวันนี้ประชาชนมีความสุขหรือไม่ ผมดีใจที่ทุกคนมีความสุขและเชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเอง” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงเกษตรกรที่กำลังปลูกข้าวเพราะน้ำมีปริมาณน้อย โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ดังนั้นต้องดูว่าจะปลูกข้าวอย่างไรให้เหมาะสม และอย่าห่วงเรื่องการขายสินค้าเกษตรผ่านออนไลน์ว่าจะถูกยึดครอง เพราะรับสินค้าที่มีคุณภาพของเราไปขายให้มากขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ ถามประชาชนด้วยว่ามีเรื่องร้องเรียนหรือไม่ หากเป็นเรื่องกฎหมาย ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ว่าฯโดยตรง ซึ่งตลอด 4 ปี รัฐบาลรับฟังความเห็นประชาชนทุกเรื่อง ไม่ได้สั่งอย่างเดียว โดยเฉพาะเรื่องที่ดินที่ต้องคำนึงถึงพื้นที่ป่า และกฎหมายด้วย


“วันนี้รัฐบาลไม่ได้มาเรื่องการเมือง แต่มาเพื่อช่วยประชาชน ร่วมกันพัฒนาประเทศ และขอให้เชื่อผมว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะดีขึ้น ต้องใช้เวลาปฏิรูป เพื่อลูกหลานในอนาคต ก่อนตายเราต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้นให้ได้ ผมมาด้วยหัวใจ ไม่ได้มาเพื่อให้ทุกคนรักเพราะผมรักทุกคนอยู่แล้ว และไม่ได้มาจังหวัดนี้แล้วจังหวัดนี้จะต้องได้งบ 20,000 ล้าน เราต้องคิดถึงคนทั้ง 77 จังหวัด ต้องดูถึงความจำเป็นและการแก้ปัญหาเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปพร้อมกัน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ได้เดินเยี่ยมชมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทักทายเจ้าหน้าที่ประจำด่านของกัมพูชา และอวยพรเป็นภาษากัมพูชาว่า “ออกุนเจริญ” ซึ่งแปลว่าขอบคุณ ขอให้เจริญๆ ก่อนเดินกลับมาทักทาย ก่อนทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมส่งมินิฮาร์ดให้กับประชาชน ก่อนขึ้นรถไปยังบ้านท่าสว่างต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการลงพื้นที่ที่ช่องจอม พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร หรือบิ๊กเยิ้ม สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 แกนนำพรรคชาติพัฒนาและเพื่อนร่วมรุ่นของพล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมต้อนรับ พร้อมกล่าวปฏิเสธถึงกระแสการดูด อดีตส.ส. ของรัฐบาลคสช.ว่า ตอนนี้มีแต่พรรคพวก ยังไม่ขอพูดถึงการเมือง รอให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ

เมื่อถามว่ายังไม่โดนดูดใช่หรือไม่ พล.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า ใช่ๆ ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องการดูด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน