11 พ.ค.61 หลังจากที่ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด แกนนำแนวร่วมปากาตัน ฮาราปัน ประกาศชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้ง เหนือพรรคแนวร่วมแห่งชาติ หรือ บีเอ็น ของนาย นาจิบ ราซัก ในช่วงหลังเที่ยงคืน เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งทยอยแถลงรับรองผลการเลือกตั้งในรัฐต่างๆ ซึ่งล่าช้าจากช่วงเวลาปกติที่เคยประกาศ (อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่)

เมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Veera Somkwamkid” แสดงความคิดเห็นหลังการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย โดยระบุว่า

นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมตรีมาเลเซีย

Former Malaysian prime minister and opposition’s candidate Mahathir Mohamad (C) speaks to the media following the 14th general elections in Kuala Lumpur on May 9, 2018.
Malaysia’s opposition alliance led by veteran ex-leader Mahathir Mohamad was making early gains in May 9 hard-fought election against the long-ruling coalition, according to unofficial tallies. / AFP PHOTO / Manan VATSYAYANA

“มหาเธร์ และประชาชนมาเลเซีย เขากล้ายึดอกยอมรับความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต ที่ยอมให้นาจิบ ราซัค ขึ้นครองอำนาจบริหารประเทศ แล้วเขาก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการ กลับเข้าสู่สนามการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อ โค่นล้มนาจิบ ตามวิถีทางแบบประชาธิปไตย

แต่ประเทศไทย ช่างตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ผู้มีอำนาจที่ได้อำนาจมาจากการทำรัฐประหาร ยังไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชน ยังไม่ยอมจัดให้มีการเลือกตั้ง ที่เลวร้ายคือเผด็จการทหารพยายามที่จะสืบทอดอำนาจต่อไปให้ยาวนานที่สุด

ส่วนผู้ที่มีส่วนไปเรียกร้องให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ เข้ามาทำให้เกิดความเสียหายแก่ชาติและประชาชน คนเหล่านี้ก็ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไร หนำซ้ำยังจะคอยปกป้องและสนับสนุนให้เผด็จการทหารปกครองประเทศต่อไปอีก

ประชาธิปไตยในประเทศไทย ไม่เกิดการพัฒนาอย่างเข้มแข็ง ส่วนหนึ่งก็มาจากคุณภาพของคนไทยเอง ที่ยอมรับเผด็จการทหารว่าดีกว่าประชาธิปไตย ถ้าเช่นนั้นจะเสียเงินร่างรัฐธรรมนูญไปทำไมกัน? มีรัฐธรรมนูญแล้วแต่ไม่ยอมให้มีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งพบว่าโกงก็เรียกทหาร เข้ามายึดอำนาจ ทหารก็มาโกงเหมือนนักการเมือง แล้วเมื่อใดประเทศไทยจะก้าวพ้นวงจรอุบาทว์เสียที?”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน