เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และว่าที่กรรมการบริหารพรรคทั้ง 27 คน ได้นำเอกสารหลักฐาน 9,000 แผ่น พร้อมรายชื่อสมาชิก 1,441 คน และบัญชีทุนประเดิม 1,441,000 บาท มายื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอจัดตั้งพรรค

นายไพบูลย์ กล่าวว่า รายชื่อของผู้ร่วมก่อตั้งที่ยื่นต่อกกต .เกือบครบทุกจังหวัดและในอีก 4 เดือนข้างหน้าจะหาสมาชิกพรรคได้เกินกว่า 10,000 คน โดยมีครบทุกจังหวัดๆละไม่น้อย 100 คน จากนั้นจะตั้งสภาประชาชนปฏิรูปในทุกจังหวัด เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยตรวจสอบถ่วงดุล แก้ปัญหาทุจริตโดยยึดหลักธรรมาธิปไตย ใช้กฎหมายแก้ปัญหา ไม่ใช้วิธีที่ไม่มีบัญญัติในกฎหมาย ซึ่งอยากให้พรรคนี้เป็นเสาหลักและเป็นจุดเริ่มต้นของพรรคปฏิรูปในระบอบใหม่ที่ไม่เหมือนระบอบเก่าที่ยังใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ ให้อามิสสินจ้าง

นายไพบูลย์ กล่าวว่า 5 ปีแรก พรรคมีนโยบาย 3 ข้อ 1.เพิ่มอำนาจประชนชน ตรวจสอบถ่วงดุล 2.ปฏิรูปการปกครองของคณะสงฆ์โดยจะเสนอพ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาเงินทอนวัด ทรัพย์สินวัด การใช้เงินวัดไปในทางส่วนตัว 3.ปฏิรูปการเมืองและนักการเมืองให้คำนึงถึงประโยชน์ประเทศ ประชาชน ในจุดนี้จะเกี่ยวข้องกับการเลือกนายกฯ ซึ่งจะไม่คำนึงว่าคนจะเป็นนายกฯเป็นคนในหรือคนนอก แต่ต้องซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีความสามารถบริหารบ้านเมืองให้ประสบความสำเร็จ

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า พรรคจะไม่ทำตามกระแสเหมือนบางพรรคที่ทำในขณะนี้ ซึ่งจำนวนเสียงไม่สำคัญเท่ากับกระบวนการของพรรคถูกต้อง เพื่อไม่ให้การต่อสู้ที่ผ่านมาสูญเปล่า แต่จะไม่ใช้วิธีการชุมนุม จะเดินตามกลไกกฎหมาย ส่วนที่พูดถึงรัฐบาลแห่งชาตินั้น ตนอยากให้เรียกว่ารัฐบาลเสียงข้างมากพิเศษมากกว่า โดยเกิดจากความร่วมมือของพรรคต่างๆ เพื่อให้เป็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ ทุกพรรคมาร่วมกัน ซึ่งน่าจะเป็นทางออกบ้านเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่าน และเห็นว่าการจะเอาผู้นำพรรคใดพรรคหนึ่งมาเป็นนายกฯ จะทำให้มีปัญหา จึงเสนอว่าน่าจะเป็นนายกฯคนกลางจะเหมาะสมกว่า

ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวว่า รัฐบาลช่วงเปลี่ยนผ่าน น่าจะเป็นการผสมผสานอำนาจของสังคมทุกฝ่าย ประชาชน ข้าราชการ นักการเมืองต้องร่วมกัน อย่าให้เหมือนก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 ที่พลังนักการเมืองอยู่เหนือข้าราชการและประชนชน ถ้าพ้นช่วงเปลี่ยนผ่านแล้วมีการปรับตัวของนักการเมือง บ้านเมืองเดินในทางที่ถูกต้อง บทบาทนักการเมืองจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งก็ยินดี ไม่มีอะไรขัดข้อง

เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ ยังเหมาะสมจะเป็นนายกฯหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ยังเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลที่ซื่อสัตย์ที่สุด ไม่มีข้อครหาใดๆ ซึ่งมันคนละขั้วกับการเปรียบเทียบกับการพ้นจากตำแหน่งของอดีตนายกฯมาเลเซีย เพราะยังไม่มีผลตรวจสอบใดๆ ว่าพล.อ.ประยุทธ์ทุจริต ผลงานก็มีประโยชน์ ยังยืนยันสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีองค์ประกอบครบ

เมื่อถามว่ามีกระแสว่านายกฯ เป็นตัวดูด นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นวาทกรรมของนักการเมือง ถ้าตัวเองทำไม่ผิด แต่ถ้าคนอื่นทำก็ว่าเขาผิด นักการเมืองยังเป็นแบบนี้อยู่ ตนจึงไม่รอการปฏิรูปจึงมาตั้งพรรคเอง เชื่อว่าประชาชนรู้หมดแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯคนในหรือนอกก็ถูกด่า เพราะเขาไม่อยากให้มาเป็น ส่วนตัวคิดว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ เลือกได้ คงไม่อยากเป็นนายกฯพรรคไหน ไม่อยากเกลือกกลั้วให้ถูกครหา ตนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เหมาะที่สุดที่จะเป็นนายกฯ คนกลาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน