‘ดอน’ ยิ้มอ่อน กั๊กไม่ตอบนั่งเก้าอี้ต่อ เผยโอน หุ้น ให้ลูกชายแล้ว รอมติกกต. ชัดเจนดีกว่า เผย ภรรยาได้รับมรดกจากบิดาเมื่อ 37 ปีที่แล้ว

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 5 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกาาต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งลงมติ ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงมติกกต. ที่ให้ขาดคุณสมบัติตามที่เป็นข่าว กระแสกดดันต่างๆ ให้ตนลาออกนั้นเห็นว่าทุกคนสนุกกันใหญ่

แต่อยู่ที่ว่าเราจะไปสนุกตามด้วยหรือไม่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่รู้สึกกดดันหลายอย่างทำงานตามปกติ ส่วนมีกระแสข่าวว่าตนหลบเลี่ยงที่จะพบสื่อหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเดินออกทางด้านหน้าของตึกไทยคู่ฟ้านั้นเป็นการเดินออกมาขึ้นรถเท่านั้นไม่ได้คุยกับนายกฯ ทั้งนี้หากตนคิดจะตัดสินใจลาออกหรือพักการปฎิบัติหน้าที่คงไม่เข้ามาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ โดยเดินเข้าตึกบัญชาการตามเส้นทางปกติที่สื่อได้เห็นเป็นประจำ

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังยืนยันที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปใช่หรือไม่ นายดอนยิ้มก่อนกล่าวว่า “คำตอบอยู่ที่ใบหน้าของผม”

เมื่อกระแสข่าวว่าภรรยาได้โอนหุ้นบริษัทให้กับบุตรชายไปแล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ได้โอนหุ้นไปแล้ว และขอยืนยันว่า หุ้นที่เป็นประเด็นนั้น ภรรยาตนได้รับมรดกจากบิดาเมื่อ 37 ปีที่แล้ว และภรรยาไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว เพราะเป็นเรื่องครอบครัว ขณะที่ตนไม่ทราบว่ามีจำนวนหุ้นอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ และเป็นหุ้นอะไรบ้าง ดังนั้นเมื่อโอนไปให้ลูกชายแล้วจึงเหลือหุ้นน้อย กว่า 5 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า ได้ดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับที่ห้ามรัฐมนตรีและคู่สมรสถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ก็ได้ดำเนินการไปตามระเบียบ

เมื่อถามว่ากกต.ระบุว่า แม้จะมีการแจ้งให้ป.ป.ช.รับทราบ แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการถือหุ้นเกิน 5% ซึ่งเข้าข่ายต้องห้าม นายดอน กล่าวว่า ให้รอความชัดเจนจากกกต. ก่อนว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้เป็นการตอบไปตามกระแสข่าวที่หลุดมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน