เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีน.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือเงินประกันตัวจากกองทุนยุติธรรมว่า น.ส.จิตภัสร์ ยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ขั้นตอนหลังจากนี้ จึงขอความร่วมมือจากผู้ขอรับความช่วยเหลือ กรุณาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วยการแสดงหลักฐานเกี่ยวกับฐานะทางเศรษฐกิจ ตามที่สำนักงานกองทุนยุติธรรม ร้องขอตามเวลาที่กำหนดด้วย เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณา ส่วนจะได้หรือไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือไม่ อยู่ตามข้อเท็จจริงที่ไม่เลือกปฏิบัติ สำหรับการขอเลื่อนฟังคำสั่งของอัยการ อ้างเหตุรอเงินกองทุนยุติธรรมประกันตัวนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหน่วยงานที่มีอำนาจพิจารณาว่าเหมาะสมที่จะให้หรือไม่ให้

นายธวัชชัย กล่าวว่า กองทุนยุติธรรมมีเจตนารมณ์ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความยุติธรรม จึงจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้เป็นอันดับแรก สำหรับขั้นตอนหลังจากได้รับคำขอ เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบหลักฐานและคุณสมบัติของผู้ขอรับความช่วยเหลือ เนื่องจากตามพ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม พ.ศ.2558 และระเบียบคณะกรรมการกองทุนยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจําเลย พ.ศ.2559 กำหนดว่าการพิจารณาให้ความช่วยเหลือนั้น คณะอนุกรรมการฯ ต้องคํานึงถึงหลักเกณฑ์ ผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี ไม่ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไม่ไปก่อเหตุภยันตรายประการใดแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ขอรับความช่วยเหลือ

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า คณะกรรมการฯจะพิจารณารรายได้ หรือความสามารถทางเศรษฐกิจของผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือ เช่น ภาระค่าใช้จ่ายในการดํารงชีพตามปกติอันควรแก่ฐานานุรูปและภาระหนี้สินของผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ ที่ไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ด้วยตนเองเป็นสําคัญ ฉะนั้น เจ้าหน้าที่จะสอบถามหรือขอให้ผู้ขอรับความช่วยเหลือได้แสดงหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือแสดงภาระหนี้สินประกอบการพิจารณาด้วย

จากสถิติที่ผ่านมาผู้ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม กรณีป็นบุคคลที่อยู่ในฐานะพอที่จะเข้าถึงความยุติธรรมได้ด้วยตนเอง แต่ยังเข้ามาขอรับความช่วยเหลือเข้ามานั้น มักจะไม่ส่งเอกสารแสดงสถานะทางการเงินต่อเจ้าหน้าที่ตามเวลาที่กำหนด หรือไม่ยอมส่งเอกสารตามที่ขอ ซึ่งกองทุนยุติธรรมจะยุติเรื่องภายใน 15 วัน แต่จะไม่ตัดสิทธิในการขอซ้ำใหม่

“ปกติ คณะกรรมการฯจะมีฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนไว้กับรัฐบาล หากมีชื่อในบัญชีดังกล่าว คณะกรรรมการจะพิจารณาช่วยเหลือ ส่วนบุคคลอื่นที่มายื่นเรื่อง แต่ไม่ได้มีชื่อในบัญชีนั้น คณะกรรมการจะให้ส่งเอกสารสถานะรายได้มาด้วยเพื่อประกอบการพิจารณา ที่ผ่านมาเคยมีนักธุรกิจคนหนึ่ง มาขอยื่นเรื่อง แต่พอขอเอกสารก็ไม่ได้ส่งมาเพิ่ม ซึ่งคณะกรรมการฯก็ยุติเรื่อง แต่เหตุผลเพื่ออะไร เพื่อคดีหรือไม่ ผมไม่ทราบข้อเท็จจริง” นายธวัชชัย กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน