“พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง” โยนถามสตช.ตามตัว “แม้ว” หลังศาลฎีกา ออกหมายจับใบที่2คดีปล่อยกู้กรุงไทย เตรียมประสานตำรวจสากลเข้ามาร่วมล่าตัวด้วย!
เมื่อวานนี้ (วันที่ 22 มิ.ย.2561) เวลา 10.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯและรมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีที่ฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ใบที่2 ข้อหาร่วมทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร ดำเนินการติดตามได้มากน้อยแค่ไหน ว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อัยการ ศาล รวมทั้งตำรวจสากล เข้ามาร่วมด้วย โดยกระทรวงยุติธรรม จะเป็นส่วนที่เข้ามาประสานงานให้ ส่วนรายละเอียด ขอให้สอบถามจากสตช.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- อ่าน : ออกหมายจับ ‘ทักษิณ’ ไม่มาศาล กำชับรายงานผลตามตัวทุกเดือน!
- อ่าน : ‘ทักษิณ’ โดนคดีที่ 7 ศาลนักการเมืองรับฟ้องคดีฟื้นฟูทีพีไอ
- อ่าน : แปะหมายหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า-เรียกเก็บภาษี”ทักษิณ”1.7หมื่นล้าน
โดยในช่วงวันและเวลา ที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯและรมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์นั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ นายทักษิณ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกรัฐมนตรี ได้พำนักอยู่ที่กรุงลอนดอน เพื่อจัดงานวันเกิดให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ
- อ่าน : ฟังชัดๆ ‘บิ๊กตู่’ ให้คำมั่นสัญญา ‘นายกฯอังกฤษ’ ไทยมีเลือกตั้งปี62 แน่นอน!
- อ่าน : “พี่แม้ว” เลี้ยงวันเกิดน้องปู ฮัมเพลงคิดถึงคนไทย ลั่นเพื่อไทยมีโอกาสเขียวทั้งอีสาน
โดยเมื่อวานนี้ ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ออกนั่งพิจารณาคดีครั้งเเรกในคดีหมายเลขดำที่ อม.44/61ที่ คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตเเห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีให้ความเห็นชอบต่อกระทรวงการคลัง สมัยที่ ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ เป็น รมว.คลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟู บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ถือเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวงการคลังไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารบริษัทเอกชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2546 มาตรา 10 เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ระบบราชการ
โดยอัยการโจทก์เดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดเดินทางมา
องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาเเล้วเห็นว่านายทักษิณ จำเลย ทราบนัดโดยชอบไม่มีการแจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อน เห็นว่าจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนีจึงให้ออกหมายจับกุมตัวจำเลยเพื่อมาดำเนินคดีตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560มาตรา28 พร้อมให้โจทก์รายงานผลการจับกุม ให้ศาลรับทราบ
และมีคำสั่งให้ร่นระยะเวลาการติดตามตัวจากเดิมที่พ.ร.ป.ด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาตรา 28 วรรคสอง กำหนดไว้ 3 เดือน ก่อนที่จะให้ดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยไม่ต้องทำต่อหน้าจำเลยภายใน 1 เดือน มาตรา 19 วรรค1 บัญญัติว่า ระยะเวลาที่กําหนดไว้ในพ.ร.ป.นี้ หรือในกฎหมายอื่น ที่บทบัญญัติแห่ง พ.ร.ป.นี้นํามาใช้บังคับ หรือในข้อกําหนดของประธาน ศาลฎีกา หรือตามที่ศาลกําหนด เมื่อศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความมีคําขอ ศาลอาจย่นหรือขยายได้ ตามความจําเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยในการแต่งตั้งทนายความเพื่อให้กระบวนการพิจารณาคดีแล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจำเลยถูกออกหมายจับในหลายคดี โดยให้ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนี้ติดตามตัวจำเลยมาศาลต่อไป