‘บิ๊กป๊อก’ สั่งผู้ว่าฯ ภาคเหนือ ติดตามวิกฤต น้ำหลาก ประเมินอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ ห่วงปริมาณน้ำโขง แถบอีสานเพิ่มสูง มอบหมายท้องถิ่นดูแลตามนโยบายรัฐบาล เตรียมตัวกักเก็บน้ำในฤดูแล้ง

น้ำหลาก – เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 31 ก.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบเหตุดินถล่ม ที่อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ว่า ขณะนี้ได้อพยพประชาชนไปอยู่ที่วัด กับโรงเรียน ซึ่งประชาชนเข้าใจดีว่า จะต้องย้ายที่อาศัยก่อน โดยทุกอย่างเรียบร้อยดี เนื่องจากขณะนี้ฝนยังตกต่อเนื่อง จึงเกรงว่าจะมีดินสไลด์ลงมาได้อีก อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในภาคเหนือว่า นอกจากการแจ้งเตือนที่ได้รับจากกรมอุตุฯ หรือสายงานต่างๆ แล้ว ขอให้ประเมินด้วยว่า เมื่อไหร่ถึงวิกฤตที่จะนำผู้คนออกจากพื้นที่ เช่น ที่อ.บ่อเกลือ ที่มีฝนตกติดต่อกันมา 5-6 วัน จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดดินสไลด์มาก หากเป็นลักษณะเช่นนี้ก็ต้องพิจารณาเรื่องย้ายคนออก ซึ่งเป็นไปตามหน้าของท้องถิ่นที่จะสามารถทำได้ แล้วหาที่พักพิงให้ชาวบ้าน

เมื่อถามว่าอ.บ่อเกลือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.น่าน แบบนี้จะทำให้กระทบการท่องเที่ยวหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าของพื้นที่ที่จะต้องดำเนินการ หน่วยงานใดรับผิดชอบเรื่องอะไรก็ต้องเข้าไปดู เช่น ป่าไม้ อุทยาน แล้วแต่ว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบอะไร

เมื่อถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน โดยระดับแม่น้ำโขงสูงขึ้นมาก พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีผลกระทบอยู่หลายจังหวัด เช่น อุบลราชธานี มุกดาหาร ที่ระดับแม่น้ำโขงสูงขึ้น ดังนั้นจึงต้องเร่งในเรื่องของการระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนต่างๆ ซึ่งตอนนี้หน่วยงานระดับท้องถิ่นต่างๆ ก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ เช่น ปัญหาน้ำเอ่อขังในพื้นที่ราบ หรือในเมือง ท้องถิ่นก็จะทำตามนโยบายของรัฐบาล คือ พยายามเอาน้ำไปเก็บไว้ในพื้นที่ที่สามารถกักเก็บได้ เช่น แก้มลิง ขณะเดียวกันก็เร่งระบายออก แต่ถ้าไม่มีแก้มลิงก็ต้องเร่งระบาย เพื่อไม่ให้เกิดการท่วมขัง ตอนนี้ทุกคนเร่งช่วยกัน และประสานงานกันทั้งกรมชลประทาน และท้องถิ่นต่างๆ ดังนั้นต้องคำนึงด้วยว่า อีก 2-3 เดือนข้างหน้า จะเข้าสู่ฤดูน้ำแล้ง ดังนั้นจึงต้องหาสถานที่กักเก็บไว้ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน