“วิทยา แก้วภราดัย” แกนนำ กปปส. อดีต ส.ส.ปชป. แฉสอดไส้ มติ ครม. แบบศรีธนญชัย เอื้อต่อการ วิ่งเต้นโยกย้าย ตำแหน่ง ข้าราชการตำรวจ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ2560!

– แกนนำ กปปส. วิ่งเต้นโยกย้ายตำรวจ / วันนี้ (5 ส.ค.61) นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต สปท.ซึ่งเป็นคู่กรณีเปิดโปงการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งข้อสังเกตมติ ครม. ขยายความคำว่า “อาวุโส” ในการดำรงตำแหน่งเสียใหม่แบบ “ศรีธนญชัย” ระบุว่าจะเป็นการเอื้อต่อการวิ่งเต้นและซื้อขายตำแหน่งครั้งใหญ่ส่งท้ายก่อนการปฏิรูปตำรวจ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิก สปท.ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีเปิดโปงการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจ

ล่าสุดนายวิทยา แก้วภราดัย ได้ตรวจสอบการเตรียมการแต่งตั้งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจครั้งใหม่อีกครั้งในขณะที่การปฏิรูปตำรวจซึ่งถูกระบุในรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่จนปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าหลังจากคณะกรรมการปฏิรูป ชุดที่มีพลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานคณะกรรมการได้เสนอต่อ ครม.แต่ไม่ผ่านมติ ครม. ซึ่งปัจจุบันเป็นคณะของนายมีชัย ฤชุพันธ์ กำลังดำเนินการ

นายวิทยาได้ตั้งข้อสังเกตประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส อ้างมติ ครม.ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยนายวิทยาเรียกประกาศฉบับนี้ว่าเป็นประกาศฉบับ “ศรีธนญชัย” เนื่องจากมีการขยายความคำว่าอาวุโสเสียใหม่ ที่มีการสอดไส้และเมื่อมีการประกาศใช้และขอกล่าวหาไว้ว่ารจะเป็นการเอื้อต่อการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งครั้งใหญ่ ทิ้งทวนส่งท้ายการปฏิรูปตำรวจ และยังบอกด้วยว่าพร้อมที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอีกสักคดี

นายวิทยา แก้วภราดัย เปิดเผยว่าในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ รอบถัดไป จะไม่สามารถใช้หลักเกณฑ์ปกติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ จะต้องอาศัยหลักอาวุโสอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องน่าประหลาดมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีอ้างมติ ครม.ไปขยายความคำว่าอาวุโสแบบศรีธนญชัยตั้งใจเลี่ยงรัฐธรรมนูญและขัดต่อรัฐธรรมนูญ ประกาศสำนักนายกฉบับนี้ไปกำหนดว่าใครที่เป็นรองผู้บังคับการหรือรองผู้บัญชาการ เพียง 1 ปี ถือว่าเป็นผู้อาวุโส สรุปคือคนที่เป็นรองผู้บัญชาการหรือรองผู้บังคับการ ที่ครองตำแหน่ง 1 ปีจะมีอาวุโสตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นวิธีการที่ผมเรียกว่า “ศรีธนญชัย”

“อาวุโสเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าการครองตำแหน่งก่อนคนอื่นนั้นถือว่ามีอาวุโส แต่นี่คือคนปีเดียวมีอาวุโสเท่ากับคน 7 ปี สุดท้ายที่ต้องจับตารมองคือนายมีชัย ฤชุพันธ์ ซึ่งเป็นประธานในการร่างรัฐธรรมนูญ ต้องไปดูว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 260 วรรค 3 เรื่องของการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งมีสภาพบังคับห้ามโยกย้ายอย่างอื่นนอกจากตามลำดับอาวุโส ได้ถูกทำลายลงแล้วโดยประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้” นายวิทยากล่าว.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน