นายกฯ ชมผลงาน คูปองครู พัฒนาการศึกษาไทย ‘หมอธี’ ชี้ โครงการวงจรปิด

ต้องเดินหน้าต่อ

คูปองครู – วันที่ 14 ส.ค. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าเยี่ยมชมการนำเสนอผลการดำเนินงาน “โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร (คูปองพัฒนาครู)” ของ ศธ. ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯ ชื่นชมว่า นี่คือการปฏิรูปการศึกษาจริงๆ เนื่องจากการดำเนินโครงการนี้ทำให้ครูมีสิทธิได้รับคูปองเพื่อไปพัฒนาตนเอง

ซึ่งแต่เดิม ศธ. ใช้งบประมาณในการพัฒนาครูปีละประมาณ 9,000 ล้านบาท ใช้กับครูจำนวนเท่าใดตนไม่ทราบ แต่ก่อนจะมีส่วนกลางผู้จัด และการอบรมจัดเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันหลังจากที่มีโครงการนี้แล้ว ใช้งบประมาณปีละ 2,000 พันล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาครูกว่า 3 แสนคน มีหน่วยงานที่จัดอบรมกว่า 276 หน่วย มีหลักสูตรกว่า 1,000 หลักสูตร จัดอบรมทั่วประเทศใน 50 จังหวัด ที่ครูสามารถเลือกเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาตนเองได้

“เรื่องนี้ก็อยากให้ครูรับรูว่า นี่คือผลงานที่รัฐบาลอยากทำให้กับครูทุกคน และในวันนี้ครูที่เข้ารับการอบรมก็ยืนยันกับนายกฯ ด้วยว่า ได้นำความรู้ที่ได้รับสิทธิจากคูปองพัฒนาครู แล้วไปเข้าอบรมครูได้นำความรู้ที่ได้รับไปเปลี่ยนแปลงการสอน” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวอีกว่า ตนรายงานให้ที่ประชุมครม. ทราบถึงเรื่องที่ บริษัทเทคโนซายน์ จำกัด ที่ยื่นฟ้อง สพฐ. ต่อศาลแพ่ง กรณีถูกยกเลิกสัญญาและริบเงินประกันสัญญา หลังมีปัญหาติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด CCTV ในโครงการ Safe Zone School งบประมาณ 577 ล้านบาท ใน 12 เขตพื้นการที่การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีปัญหาส่อทุจริต ซึ่งต่อมาศาลยกฟ้องเนื่องจากเห็นว่า บริษัทเทคโนซายน์ซึ่งเป็นโจทก์ทำผิดสัญญาและจงใจไม่ติดตั้งครบ 16 License

ซึ่งหลังจากศาลยกฟ้องแล้วหลายฝ่ายเกิดคำถามว่า สพฐ. จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตนเห็นว่าเมื่อ สพฐ. ชนะก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหยุดโครงการนี้ ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะศาลตัดสินชัดเจนแล้วว่า บริษัทคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตน ต้องคิดถึงผลประโยนช์ของภาครัฐและความปลอดภัยของประชาชนด้วย ในส่วนของการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ต้องติดตั้งให้สัมพันธ์กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กำหนดด้วย ซึ่ง กอ.รมน.จะเข้ามาช่วยดูและให้คำแนะนำต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนคณะกรรมการตรวจรับซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นครูจะโดนตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ครูเหล่านี้น่าจะผิดวินัยไม่ร้ายแรง เพราะการดำเนินการทุกอย่างดำเนินการตามการตัดสินใจของผู้บริหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน