“บิ๊กตู่” เตรียมนำ 12 รมต.ใหม่ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เย็นวันจันทร์นี้ ก่อนร่วมถกครม.นัดแรก วันอังคารที่ 20 ธ.ค. “สุวพันธุ์-ปนัดดา”ลั่นพร้อมเริ่มงานใหม่ “ชุติมา” เผยบิ๊กฉัตรชวนมาร่วมแก้ปัญหาให้เกษตรกร ด้าน”ออมสิน” ยันไม่กดดันถูกย้ายจากคมนาคม มาสำนัก นายกฯ ด้านสุวิทย์ไม่เกี่ยงงานแต่เคยดูแล บีโอไอ-ขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 รมว.พาณิชย์นัด”สนธิรัตน์”ถกแบ่งงาน ภาคเอกชนขานรับ เชื่อทีมเศรษฐกิจใหม่ทำงานได้ดี ฝากการบ้านเร่งเข็นมาตรการให้เป็นรูปธรรม ปชป.ก็ปลื้ม ขณะที่เพื่อไทยเย้ยแค่สลับเก้าอี้ คนใหม่ผลงานไม่ประทับใจ ห่วงเศรษฐกิจแย่กว่าเดิม ชาวเน็ตนัดชุมนุม 2 จุด ค้านพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์วันนี้ นักวิชาการจวกสนช. เทคะแนนผ่าน ส่วน”องอาจ” ห่วงประชาชนถูกล้วงข้อมูล จี้รัฐตั้งทีมจับตากรรมการกลั่นกรองข้อมูล

“ตู่”นัด 12 รมต.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์

วันที่ 17 ธ.ค. รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า จากกรณีมีราชกิจจานุเบกษาประกาศ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราช โองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 12 ตำแหน่ง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางสำนักราชเลขาธิการ ประสานมายังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(สลน.) เพื่อแจ้งให้รัฐมนตรีที่ได้รับพระบรมราช โองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งใหม่ให้เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ในวันที่ 19 ธ.ค. เวลา 17.15 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้นัดรัฐมนตรีใหม่ ทั้ง 12 คน พร้อมกันที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบ ก่อนเวลา 15.00 น. เพื่อถ่ายภาพหมู่ ทั้งนี้ สลน.ได้จัดรถตู้เพื่อให้นายกฯและรัฐมนตรีใหม่ เดินทางไปเป็นคณะ โดยรถจะออกเดินทางเวลา 15.30 น. และเดินทางกลับเมื่อเสร็จพิธี

ร่วมถกครม.นัดแรกอังคารนี้

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ว่าที่รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า การมอบหมายงานในตำแหน่ง ดังกล่าว ตนยังไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะมอบหมายให้ปฏิบัติงานเรื่องเร่งด่วนอะไร อย่างไรก็ตาม ขอให้เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ตนก่อน เบื้องต้นมีการนัดหมายครม.ใหม่ 12 คน ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปเข้าเฝ้าฯ ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ และประชุมครม.นัดแรกในวันที่ 20 ธ.ค.นี้

“ผมเก็บของจากห้องทำงานที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เย็นของวันที่ 16 ธ.ค.แล้ว เหลือของอีกนิดหน่อย คณะทำงานจะไปเก็บในวันนี้” นายสุวพันธุ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ทีมงานหน้าห้องของนายสุวพันธุ์ และม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ว่าที่รมช.ศึกษาธิการ ได้มาเก็บเอกสารและสิ่งของต่างๆ ภายในห้องทำงานออกจากทำเนียบรัฐบาล

หม่อมเหลนพร้อมดูงานศธ.

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ว่าที่รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากนี้ต้องรอพล.อ.ประยุทธ์และนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรมว.ศึกษาธิการ มอบหมายงานและนโยบาย ซึ่งหลังจากเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และร่วมประชุมครม.นัดแรกวันที่ 20 ธ.ค. คงจะได้รับการแบ่งงานว่าตนจะได้ดูแลงานในด้านใดบ้าง

“ผมไม่ทราบมาก่อนเลยว่าจะได้ดำรง ตำแหน่งรมช.ศึกษาฯ นายกฯไม่ได้เรียกไปพูดคุยหรือสอบถามก่อน แต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำงานด้านการศึกษา เพราะเคยเป็นผู้ว่าฯ ทำงานร่วมกับสถานศึกษาต่างๆ ถือว่างานด้านการศึกษาเป็นงานที่ท้าท้าย และจะมุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ” ม.ล.ปนัดดากล่าว และว่าส่วนงานที่สำนักงานปลัดสำนักนายกฯที่ตนดูแลนั้น ยังไม่ทราบว่านายกฯ จะมอบให้นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ หรือนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ว่าที่รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นผู้สานงานต่อ

ออมสินไม่กดดัน-พ้นคมนาคม

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ว่าที่รมต.ประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่กำกับดูแลงานสำนักนายกฯ นัดมอบหมายงานให้ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ หลังประชุมครม. ซึ่งส่วนตัวสนใจงานสำนักนายกฯและสามารถทำงานได้หลายด้าน เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ หลังต้องย้าย จากรมช.คมนาคม ซึ่งดูแลงานด้านคมนาคม มาทำงานที่สำนักนายกฯ นายออมสินกล่าวว่าไม่กดดัน ตนทำงานได้หลากหลายตามที่ นายกฯหรือรองนายกฯ มอบหมาย ซึ่งจะทำงานให้เต็มที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

สุวิทย์แย้มเคยดูแลบีโอไอ

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ว่าที่รมต.ประจำสำนักนายกฯกล่าวว่า ในวันที่ 19 ธ.ค. นายกฯนัดพบรัฐมนตรีใหม่ 12 คน ถ่ายรูปหมู่ก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน และจะประชุมครม.นัดแรกในวันที่ 20 ธ.ค. ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ยังไม่ได้มอบให้ตนดูแลงานด้านใดเป็นพิเศษ คงต้องรอหลังเข้าเฝ้าฯ ซึ่งเดิมตน ดูงานด้านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) มาก่อน และงานการขับเคลื่อนด้านพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล หรือไทยแลนด์ 4.0 ฉะนั้นขึ้นอยู่นายกฯว่าจะมอบหมายงานในด้านใดให้ทำ

อภิรดีนัด”สนธิรัตน์”แบ่งงานพณ.

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะหารือกับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ว่าที่รมช.พาณิชย์ ก่อนมอบหมายหน้าที่การทำงานภายในกระทรวงพาณิชย์อีกครั้งว่าถนัดงานด้านใด จะได้แบ่งงานได้เหมาะสม เพราะงานของกระทรวงพาณิชย์มีความหลากหลาย ทั้งงานภายในประทศ ที่กำลังเร่งผลักดันงานเศรษฐกิจชุมชน ตลาดชุมชนท้องถิ่น หมู่บ้านทำมาค้าขายและได้เริ่มงานไปบางส่วนแล้ว รวมถึงการคุ้มครองงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าเกษตร รวมทั้งด้านการต่างประเทศ

“รมช.คนใหม่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์งานจากกระทรวงอุตสาหกรรม มาก่อน และงานของกระทรวงพาณิชย์เอง ก็มีส่วนเกี่ยวข้องงานด้านเอสเอ็มอี มั่นใจว่าจะนำมาต่อยอดงานด้านกระทรวงพาณิชย์ได้เป็นอย่างดี” รมว.พาณิชย์กล่าว

ชุติมาเผยบิ๊กฉัตรชวนนั่งรมต.

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ว่าที่รมช.เกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจะเข้ามาช่วยงานในกระทรวงเกษตรฯในด้านใด เพราะยังไม่ได้หารือกับพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ เลยว่าจะให้ดูแลงานด้านใดบ้าง รวมทั้งให้รับผิดชอบเรื่องใดเป็นพิเศษ ต้องรอเข้าพบพล.อ.ฉัตรชัยก่อน ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นวันไหน

“ยอมรับว่าดีใจที่ได้เป็นรมช.เกษตรฯ จะได้มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรไทย ซึ่งตอนที่ พล.อ.ฉัตรชัย ชวนเข้ามาก็ไม่ได้พูดตรงๆ ว่าจะให้รับตำแหน่งรมช.หรือไม่ เพียงแต่ถามว่าพร้อมหรือเปล่าที่จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกร ก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะเป็นตำแหน่งรมช.เกษตรฯ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งอะไร จะเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นปลัดกระทรวง ก็พร้อมทำงานเต็มที่” น.ส.ชุติมากล่าว

ภาคเอกชนพอใจ-เชื่อทำงานได้ดี

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย กล่าวว่า พอใจรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ซึ่งหลายคนอยู่ในกลุ่มเดิมของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เมื่อได้ผ่านงานมาหลายกระทรวง มีความรู้รอบด้านกว้างจะทำให้มีการประสานงานได้ดีขึ้น จึงมองว่าทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะช่วยต่อยอดงานด้านเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตไปได้ นับว่าภาคเอกชนมีความพอใจกับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) กล่าวว่า รายชื่อครม.ใหม่ที่ออกมาเชื่อว่า นายกฯ ได้พิจารณาและหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมแล้ว โดยเฉพาะเวลาที่เหลือของรัฐบาลเพียงปีเศษ ผู้ที่เข้ามาจะต้องบริหารและจัดการเรื่องต่างๆ ได้รวดเร็วและเห็นผลได้ดีขึ้น เอกชนส่วนใหญ่จึงเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาทุกเรื่องได้อย่างดี

เร่งออกมาตรการเป็นรูปธรรม

นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผอ.หลักสูตรปริญญาโทการจัดการภาครัฐและเอกชน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) กล่าวว่า จากประวัติรายชื่อของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และถูกสลับหมุนเวียนอยู่หลายตำแหน่ง และหลายคนเป็นนักคิด นักยุทธศาสตร์ จึงมีผลงานออกมามากหลายมาตรการ แต่ยังขาดการเร่งรัดผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อระบบเศรษฐกิจ

นายมนตรีกล่าวว่า ดังนั้น การบ้านจากนี้ต้องขับเคลื่อนมาตรการที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐมีงบลงทุน 5 แสนล้านบาท ยังตกค้างจากปีก่อน 1 แสนล้านบาท เงินลงทุนรัฐวิสาหกิจ 3.5 แสนล้านบาท ตกค้างจากปีก่อน 1 แสนล้านบาท รวมแล้วเงินลงทุนผ่านโครงการภาครัฐกว่า 1 ล้านล้านบาท หากผลักดันให้หมุนเวียน เกิดการลงทุนจะส่งผลต่อเศรษฐกิจได้อีกมาก เพราะหากต้องพึ่งเอกชนในขณะนี้คงยาก เพราะกำลังการผลิตของเอกชนมีเพียงร้อยละ 64 เครื่องจักร อีกร้อยละ 36 ยังว่างงาน หากขยายกำลังการผลิตคงไม่ได้เพราะยังมีกำลังว่างงานอีกมาก เนื่องจากกำลังซื้อภาคเกษตร ภาคครัวเรือนลดลง การส่งออกพึ่งพาได้น้อย จึงเหลือการลงทุนจากภาครัฐที่ต้องทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมให้ชัดเจน

พท.ยี้ครม.ใหม่แย่กว่าเดิม

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงครม.ตู่ 4 ว่า ประชาชนคาดหวังว่ารัฐบาล จะมีการปรับเปลี่ยนและนำผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหา ให้กับประเทศได้ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ แต่เมื่อได้เห็นการปรับครม.แล้วต้องผิดหวัง เพราะแทบไม่ได้ปรับเปลี่ยนตัวบุคคลเลย ส่วนใหญ่สลับตำแหน่งกันภายในครม. และยังโยกย้ายรัฐมนตรีคนเดิมไปตำแหน่งใหม่ ที่อาจจะไม่มีความรู้ความชำนาญ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลยิ่งด้อยลงไปอีก เพราะขนาดตำแหน่งเดิมที่เคยมีความรู้และมีประสบการณ์อยู่บ้างยังทำให้ประชาชนพอใจไม่ได้ แล้วตอนนี้ถูกปรับไปทำตำแหน่งใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์และไม่มีความชำนาญ น่าจะยิ่งแย่กว่าเดิม

เชื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้

นายพิชัยกล่าวว่า คนใหม่ที่เข้ามาก็ไม่มีประวัติการทำงานที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะการปรับ ครม.ด้านเศรษฐกิจ ยิ่งดูเหมือนจะหมดหวัง และเชื่อว่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจตามที่ประชาชนคาดหวังได้ อีกทั้งหากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจยังมีแนวคิดสับสนจะยิ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ เพราะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจยังมองว่าการส่งออกที่มีสัดส่วนสูงในอดีตเป็นปัญหา แทนที่จะมองว่าเป็นความสำเร็จ และควรจะเร่งหาทางส่งออกเพิ่ม เพื่อสร้างความสำเร็จ

“หลังจากปรับ ครม.แล้ว เชื่อว่ารัฐบาล จะยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้ และยังไม่สามารถเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับประเทศต่างๆ ได้ ซึ่งจะทำให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ประชาชนคงต้องทนลำบากกับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้และอาจจะแย่กว่านี้ต่อไป จนกว่าประเทศไทยจะกลับสู่ระบอบการปกครองที่เป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก” นายพิชัยกล่าว

หญิงหน่อยให้กำลังใจ

ที่วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เขตสัมพันธ วงศ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงครม.ตู่ 4 ว่า เมื่อมีการปรับเปลี่ยนคนเข้ามาทำงานก็ต้องให้กำลังใจ เราจะไปวิจารณ์ทางลบคงไม่ถูก หวังว่าครม.ชุดใหม่จะช่วยทำงานแก้ปัญหาประเทศชาติ และประชาชนได้ด้วยดี ส่วนการปรับ ครม.ชุดใหม่ที่เป็นกระทรวงด้านเศรษฐกิจนั้น ตนมองว่าปัญหาหลักอยู่ที่เศรษฐกิจ จึงต้องปรับ ครม.เสริมและเพิ่มกำลังในด้านเศรษฐกิจเพราะช่วยนี้เศรษฐกิจแย่ หากสามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นคงจะช่วยประชาชนได้มาก

ปชป.ปลื้ม”ชุติมา”ช่วยเกษตรฯ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้รู้จักน.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ว่าที่รมช.เกษตรฯ เป็นการส่วนตัว แต่จำได้ว่าก่อนเกษียณน.ส.ชุติมา เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ และเคยไปเป็นพยานคดีจำนำข้าว รวมถึงได้ ลงนามในคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายคดีระบายข้าวจีทูจี ตนยังชื่นชมว่าสุดยอด คนอย่างนี้นายกฯ ควรเอามาช่วยงาน ล่าสุดเห็นรายชื่อน.ส.ชุติมา เป็นรมช.เกษตรฯ แม้ไม่ได้รู้จักก็ขอชื่นชมยินดีด้วย แต่อยากฝากรัฐมนตรีใหม่ให้ช่วยรณรงค์นำวิถียุ้งฉางของชาวบ้านกลับมาใช้ เพื่อให้ชาวบ้านใช้เป็นเครื่องมือควบคุมปริมาณสินค้าเกษตรออก สู่ตลาด จะทำให้ชาวบ้านมีอำนาจต่อรอง

จี้รัฐตั้งทีมจับตาพรบ.คอมพ์

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติผ่านร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการ กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่…) พ.ศ. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า เมื่อกฎหมายผ่านไปเเล้ว คงทำอะไรไม่ได้มาก แต่รัฐบาลต้องแก้ไขและสร้างความเชื่อมั่น ในส่วนของประเด็นที่ประชาชนกังวลคือกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร 7-9 คน มาคอย กำกับดูเเล อาจทำให้รัฐบาลเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนได้ง่ายขึ้นหรือไม่

นายองอาจกล่าวว่า คาดว่ารัฐบาลคงต้องการ ใช้กฎหมายนี้เข้ามาจัดการคดีร้ายแเรงหรือเรื่องความมั่นคง แต่เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะไม่ถูกละเมิดสิทธิได้ง่าย รัฐบาลต้องสร้าง ความมั่นใจและยอมรับว่าโลกโซเชี่ยลมีเดีย อินเตอร์เน็ต หรือการใช้โทรศัพท์มือถือ ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านออนไลน์ เป็นส่วนสำคัญในชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ดังนั้น เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความมั่นคง กับเรื่องละเมิดสิทธิ รัฐบาลต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรม การกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร อีกชุดหนึ่งเพื่อสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ล้วงข้อมูลส่วนตัวของประชาชนได้ง่าย แต่ตัวคณะกรรม การกลั่นกรองฯ มาจัดการเรื่องคดีความมั่นคงร้ายเเรงเท่านั้น

นักวิชาการรุมจวกสนช.

นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทวีตข้อความหลังสนช.ผ่านร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ระบุว่า เป็นวันที่คนไทยและคนรุ่นใหม่ที่ห่วงใยอนาคตของสังคมตนเองได้เข้าใจความหมายของคำว่า “เผด็จการรัฐสภา” อย่างลึกซึ้งและกระจ่างชัด และความเงียบงันของสื่อกระแสหลักต่อประเด็นสำคัญอย่างพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ยิ่งสะท้อนและตอกย้ำว่าเหตุใดพื้นที่สื่อสารในโลกออนไลน์จึงสำคัญ และเหตุใดรัฐจึงอยากควบคุม และทุกครั้งที่รัฐมีอำนาจมากขึ้น รัฐฟังประชาชนน้อยลงเสมอ อำนาจเด็ดขาดมาพร้อมกับความสามารถในการรับฟังที่บกพร่อง ประวัติศาสตร์เป็นเช่นนี้เสมอมา

ด้านนายธีระ สุธีวรางกูร อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กระบุว่า “ถ้ารัฐใช้อำนาจบังคับ ติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องนอนของท่าน จะพูดไหมว่า เมื่อเราไม่ได้ทำผิดก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร และอย่าเข้าใจผิด เผด็จการรัฐสภามีเฉพาะรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง”

ชาวเน็ตนัดค้านกม.คอมพ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กกลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ประกาศ เชิญชวนประชาชนที่สนใจ ร่วมแสดงออก ในการคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ระบุว่า วันที่ 18 ธ.ค. เวลา 14.00 น. จะมีการจัดกิจกรรม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 15.00 น. ที่ลาน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมฯ บีทีเอส สนามกีฬาฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน