เรืองไกร จี้ ข้าวล้านกว่าตัน สมัย ยิ่งลักษณ์ ล่องหนจากบัญชีไปไหน? หลังคสช. ยึดอำนาจ รวมมูลค่ากว่าแสนล้าน

ยิ่งลักษณ์ – วันที่ 25 ส.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏว่ามีข้าวหายไปจากบัญชีร่วมล้านตัน มูลค่าความเสียหายนับแสนล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวมีการอ้างว่า ทราบมาตั้งแต่หลังการยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 2557 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถตรวจสอบให้ได้ข้อยุติแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบต่อการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว และการระบายสต็อกข้าวสารในปัจจุบันด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรมการค้าต่างประเทศกำลังเปิดประมูล เพื่อขายข้าวสารในสต็อกของรัฐอีก 2 ส่วน คือ ข้าวสารที่ไม่ใช่การบริโภคของคน จำนวน 245,077 ตัน โดยจะเปิดซองเสนอซื้อในวันที่ 29 ส.ค. และ ข้าวสารที่ไม่ใช่การบริโภคของคน และสัตว์ จำนวน 22,341 ตัน โดยจะเปิดซองเสนอซื้อในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ซึ่งข้าวสารทั้งสองส่วนนี้ เก็บอยู่ที่คลังสินค้าของ อคส. และ อ.ต.ก. ตามจังหวัดต่างๆ

นายเรืองไกร กล่าว่า การประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐครั้งนี้ มีตัวเลขปริมาณข้าวแต่ละชนิด แต่ละโกดัง แต่ละปีอย่างชัดเจน ซึ่งถือได้ว่ามีตัวเลขที่น่าเชื่อถือปรากฏอยู่ จึงมีข้อสังเกตตามมาว่า แล้วตัวเลขในการบันทึกบัญชีมีหรือไม่ และตรงกันหรือไม่ มีเอกสารทางบัญชีใดมายืนยันหรือไม่ หากพิจารณารายการที่จะเปิดประมูลจะพบว่า ข้าวสารส่วนใหญ่เป็นข้าวสารที่มาจากโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่หากดูในรายละเอียด ก็จะพบเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะข้าว 2 ส่วนนี้ มีข้าวนาปรัง 2551 ที่เป็นข้าวปทุมธานี อยู่ที่คลังสินค้า อ.ต.ก. จ.ชัยนาท จำนวน 27 ตัน และข้าวนาปี 2551/52 ที่เป็นข้าวขาว 15% อยู่ที่คลังสินค้า อคส. จ.สงขลา จำนวน 37 ตัน และมีข้าวนาปรัง 2551 ที่เป็นข้าวปทุมธานี อยู่ที่คลังสินค้า อ.ต.ก. จ.นครสวรรค์ จำนวน 90 ตัน รวมอยู่ด้วย ซึ่งข้าวทั้ง 3 รายการดังกล่าว น่าจะเป็นข้าวสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

แค่นี้ก็พอสร้างความสงสัยแล้วว่า ถ้าข้าวนาปรัง 2551 และข้าวนาปี 2551/52 ทั้ง 3 รายการ รวมกันได้ประมาณ 154 ตัน ยังคงเหลืออยู่ให้นำมาประมูลขายได้ แสดงว่าข้าวสามารถเก็บไว้ได้นานไม่ได้เสื่อมสภาพเร็วแต่อย่างใด ดังนั้นที่มีการกล่าวหามาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2557 ว่าข้าวในโครงการรับจำนำข้าวสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีการเสื่อมสภาพเป็นจำนวนมากนั้น จึงอาจมีพิรุธน่าสงสัย ที่ข่าวระบุว่าข้าวหายไปจากบัญชีอีกร่วมล้านตัน แต่หากพิจารณาจากข้อมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐที่กรมการค้าต่างประเทศนำออกมาประมูลในแต่ละครั้ง แสดงว่าต้องมีบัญชีให้ตรวจสอบได้ และข้าวที่หายไปจากบัญชีร่วมล้านตัน ก็ต้องตรวจสอบได้เช่นกันว่า เป็นข้าวชนิดใด อยู่ในคลังสินค้า อคส. หรือ อ.ต.ก. จำนวนเท่าใด แยกเป็นคลังสินค้าจังหวัดใดบ้าง

ซึ่งตนในฐานะนักบัญชีที่ชำนาญการตรวจสอบบัญชี จะติดตามตรวจสอบหาความจริงเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยให้สังคมได้รับทราบ และจะร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตรวจสอบเรื่องข้าวหายไปจากบัญชีด้วยว่า ข้าวหายไปจากบัญชี 1 ล้านตัน จริงหรือไม่ ใครต้องรับผิดชอบ และมูลค่าความเสียหายเท่าใด รวมทั้งจะถามว่า ทำไมข้าวที่เก็บมา 10 ปี ยังสามารถนำมาขายได้ และเมื่อกรมการค้าต่างประเทศขายข้าวสารแล้ว หน่วยงานใดรับผิดชอบในการลงบัญชี และเงินที่ขายได้นำไปไหน โดยจะไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน