พิชัย ถาม มาร์ค ไม่หนุนยึดอำนาจ ออกมาเป่านกหวีดทำไม? ใจดี เสนอทางแก้ ‘แพ้เลือกตั้ง’ ให้ลองไปดู แนวคิด “ทักษิโณมิกส์” ประชาชนจะได้ไม่จำได้แต่ ‘นโยบายชั่งไข่’

อภิสิทธิ์ – วันที่ 27 ส.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์แก้ตัวกับสื่อต่างประเทศปฏิเสธไม่ได้อยากให้เกิดการปฏิวัติ และพยายามโทษมาที่พรรคเพื่อไทยนั้น อยากให้นายอภิสิทธิ์ได้กลับไปย้อนหลังดูพฤติกรรม และการให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์เองตั้งแต่ในอดีต จะเห็นได้ชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์มีเจตนาเช่นไร

และเมื่อนายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ออกมายอมรับ และเปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกเอง ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นชัดเจน ซึ่งข้อมูลในอดีตนี้ ทำให้สื่อต่างประเทศ ที่ติดตามการเมืองไทยได้เข้าใจดีจนยากจะปฏิเสธ และคนไทยส่วนใหญ่เองก็เห็นเช่นกัน ต้องถามว่าคนไทยส่วนใหญ่เชื่อใครมากกว่ากัน ระหว่างนายนคร หรือนายอภิสิทธิ์ จะเห็นได้ชัดเจนว่า ใครบ้างมีส่วนเป็นสาเหตุ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ลำบากกันอย่างมากจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้อยากให้นายอภิสิทธิ์ได้ตอบ 5 คำถามนี้

1.หากนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการให้เกิดการปฏิวัติ เหตุใดพรรคประชาธิปัตย์ จึงบอยคอตการเลือกตั้ง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะในปี 2549 นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ก็บอยคอตการเลือกตั้งเช่นกัน ต่อมาก็เกิดการปฏิวัติ ดังนั้นการบอยคอตการเลือกตั้งครั้งที่ 2 นี้ ประชาชนคาดว่านายอภิสิทธิ์จะหวังผลเช่นไร

นายพิชัย กล่าวต่อว่า 2.เหตุใดนายอภิสิทธิ์ และแกนนำพรรค รวมถึงนายชวน หลีกภัย จึงลงมาเป่านกหวีดร่วมประท้วงกับ กลุ่ม กปปส. ที่มีอดีตเลขาธิการพรรคเป็นผู้นำ ซึ่งการประท้วงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการปฏิวัติใช่หรือไม่ 3.เหตุใดสมาชิกพรรคถึงได้ลบหลู่ประธานสภาฯ ซึ่งเป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญบัติ ด้วยการกระชากเก้าอี้ และขว้างเอกสารใส่ เพื่อให้ประชาชนรังเกียจพฤติกรรมของนักการเมือง แล้วจึงเกิดการปฏิวัติใช่หรือไม่ 4.หากนายอภิสิทธิ์เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยทำผิด เหตุใดจึงไม่ให้ประชาชนตัดสิน และลงโทษในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งในขณะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะชนะการเลือกตั้งก็เป็นได้ หรืออย่างน้อยก็ต้องได้ ส.ส.มากกว่าเดิม และอาจจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยได้ แล้วจะบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร

5.หากนายอภิสิทธิ์บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนับสนุนการปฏิวัติ และไม่สนับสนุนเผด็จการ นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ กล้าประกาศแบบชัดๆ หรือไม่ว่าจะไม่สนับสนุน พรรคทหาร และพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจต่อหลังการเลือกตั้ง ไม่ใช่ใช้โวหารพูดแบบกำกวม

นายพิชัย กล่าวอีกว่า นี่เป็นเพียงบางคำถามเท่านั้น หากนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจะยืนอยู่ข้างฝั่งประชาธิปไตย ต้องตอบ และประกาศเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจน ไม่ใช่อาศัยเพียงคำพูด และวาทกรรมที่ตนถนัด เพียงเพื่อให้ได้คะแนนเสียงจากเลือกตั้งเท่านั้น สุดท้ายก็อาจจะไปยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นได้ หากพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ยอมรับความผิดในอดีต และไม่หาจุดยืนเพื่อแก้ไข ประชาชนจะลงโทษพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ คาดกันว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นพรรคต่ำร้อย

และอยากให้นายอภิสิทธิ์ได้ฟังหลานชายตนเอง ที่ยอมรับความจริงว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยออกนโยบายได้โดนใจประชาชนเลย จึงทำให้พ่ายแพ้การเลือกตั้งมาโดยตลอด 20 ปี อยากให้นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ได้ศึกษาแนวคิด “ทักษิโณมิกส์” เผื่อจะมีแนวนโยบายที่ถูกใจประชาชนบ้าง ไม่ใช่ประชาชนจะจำได้แค่ นโยบายชั่งไข่ นโยบายแจกเช็ค 2,000 บาท นโยบายไทยเข้มแข็งที่ประชาชนไม่รู้เลยว่า 4 แสนล้านบาท เอาไปใช้จ่ายอะไร และนโยบายสร้างโรงพัก 396 แห่งไม่เสร็จที่ ป.ป.ช.กำลังจะฟ้องอยู่ เป็นต้น หากพรรคประชาธิปัตย์ สามารถคิด และพัฒนานโยบายที่สามารถแข่งขันกับพรรคเพื่อไทยได้ สมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้ไม่ต้องไปร่วมประท้วงแล้วสร้างปัญหาให้กับประเทศอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน