ศรีสุวรรณ งัดหลักฐาน จวก บิ๊กตู่ – ไก่อู ยันคนรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ ค้านบ้านป่าแหว่ง มาตั้งแต่ ปี59 ลั่น อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง

ศรีสุวรรณ บ้านป่าแหว่ง / เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ออกแถลงการณ์ในนามสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เรื่อง ติงนายกฯ-โฆษกรัฐบาล “อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง” กรณีประชาชนค้านบ้านป่าแหว่ง เพราะสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและประชาชนค้านมาตั้งแต่แรกแล้ว

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ตามที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกมาแถลงตำหนิผู้ที่ออกมาคัดค้านการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัย เมื่อวันที่ 27 ส.ค.61 ที่ผ่านมาโดยอ้างคำพูดของนายกรัฐมนตรีว่า ทำไมเพิ่งมาคัดค้านโครงการดังกล่าว “หากการออกมาคัดค้านได้ดำเนินการตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นโครงการก่อสร้าง ก็จะไม่ทำให้เรื่องยืดยาวหรือต้องสูญเสียงบประมาณของรัฐเช่นนี้” นั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คำแถลงดังกล่าวเป็นลักษณะ “เอาดีเข้าตัวโยนชั่วให้คนอื่น” หรือแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่ามีประชาชนคัดค้านโครงการดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงนั้นชาวบ้านเขาคัดค้านมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เป็นเพราะการไม่ยอมรับฟังข้อท้วงติงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างหาก ปัญหาจึงลุกลามบานปลายมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในส่วนของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ก็ได้ทำหนังสือท้วงติงไปยังอธิบดีศาลอุทธรณ์ภาค 5 อธิบดีกรมธนารักษ์ และอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ทบทวนการใช้พื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.59 แล้ว (ปรากฎตามสำเนาหนังสือแนบ) แต่ทว่าหน่วยงานดังกล่าวไม่ยอมรับฟังและทบทวนตามที่สมาคมฯทักท้วงเลยต่างหากทำให้รัฐต้องสูญเสียเงินงบประมาณบานปลายไปเช่นนี้

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ซึ่งในขณะนั้นเข้าใจว่าพล.ท.สรรเสริญ ยังไม่ได้ใหญ่โตเป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯ จึงอาจไม่รู้ ถึงได้แถลงออกมาในลักษณะ “ปล่อยไก่” ตัวเบิ้มให้ชาวบ้านเขารู้ถึงภูมิรู้เยี่ยงนี้ก็เป็นได้
การเลือกพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักและสำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่เจาะเข้าไปในพื้นที่ที่มีป่าไม้ขึ้นอุดมสมบูรณ์เชิงดอยสุเทพ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนเชียงใหม่นั้น ปุถุชนทั่วไปก็รู้ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่

ดังนั้นการออกมาคัดค้านของประชาชนคนเชียงใหม่และคนที่มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นโดยชัดแจ้งว่ารัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงจะชอบ เพราะไม่มีอำนาจใดเหนือไปกว่า อำนาจของประชาชน และที่สำคัญการสูญเสียเงินแผ่นดินที่เสียหายไปกับการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัยเชิงดอยสุเทพดังกล่าว ในอนาคต “ต้องมีคนรับผิดชอบ” แน่นอน จะปล่อยไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเงินแผ่นดินต้องตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติหรืออนุญาตควรเตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะคดีทุจริตและประพฤติมิชอบไม่มีอายุความ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน