ทักษิณ แซะ รัฐบาล เป็น ‘งานก๊อบไร้เกรด’ ลั่น!! ให้ปชช. ตัดสิน ว่าอยากได้เกรดไหน ส่วนสมคิด เป็นได้แค่เสมียนหน้าห้องหมอ ที่อยากเป็นหมอใหญ่
ทักษิณ – วันที่ 27 ส.ค. แหล่งข่าว แจ้งว่า นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพบปะเพื่อนฝูง และดำเนินธุรกิจ ซึ่งระหว่างนี้มีนักการเมือง ทั้งอดีตรัฐมนตรี และอดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบอดีตนายกฯ ทั้ง 2 จำนวนหนึ่ง ซึ่งคนที่ไปในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่มีปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ กล่าวคือ ไม่มีปัญหาเรื่องการแบ่งเขต ไปคุยกับทั้งสองแล้วไม่เอาปัญหาไปรายงาน เพราะเบื้องต้นอดีตนายกฯ ทั้งสองต้องการไปพบเพื่อน และทำธุรกิจมากกว่า กลุ่มที่ไปจึงไม่ได้มีใครไปต่อรองอะไรจากท่านเลย ทั้งนี้นายทักษิณได้กล่าวกับอดีต ส.ส. ที่บินไปพบตอนหนึ่งว่า วันนี้ท่านใดกลัวเรื่องของการยุบพรรค เชื่อว่า ถ้าเขายุบก็ชี้แจงสังคมยาก เช่น กรณี 8 แกนนำที่แถลงข่าวแล้วมีปัญหา จะเอาตรงนี้มายุบพรรค มันค้านสายตาประชาชน เพราะกลุ่มสามมิตรก็ตระเวนแถลงข่าวอยู่ไม่เว้นวันยังทำได้
- “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” โผล่เมืองจีน! แชะรูปแฟนคลับที่กรุงปักกิ่ง
- เพื่อไทย ตอกกลับ ประชาธิปัตย์ ทำแบบ ทักษิณ ได้ไหม? ยัน แพ้เพราะ ‘กติกาป่าเถื่อน’
แหล่งข่าว ระบุอีกว่า นายทักษิณบอกว่า พลังประชารัฐก๊อบปี้ท่านทุกอย่าง ไม่ใช่ของแท้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ คิดว่าตัวเองเป็นหมอใหญ่ ทั้งที่ผ่านมาเป็นเพียงเสมียนหน้าห้องหมอเท่านั้น ทักษิณต่างหากที่เป็นหมอใหญ่ วันนี้ก็ไล่หมอใหญ่ออกไปแล้วยึดคลินิก คนที่มายึดคลินิกเข้าไปรักษาคนไข้เหมือนหมอได้อย่างไร ก็ตัวเองไม่ใช่หมอ ส่วนนายกฯ เห็นทักษิณสอนหนังสือก็อยากสอนบ้าง เห็นขับรถ ก็ขับบ้าง แม้แต่การประชุม ครม.สัญจรก็ก๊อบปี้ รัฐบาลนี้ทำทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบปรัชญาของพรรคเพื่อไทยที่ว่า “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ทั้งสิ้น คือไม่ใช่ของก๊อบเกรดเอ แต่เป็นของก๊อบไร้เกรด ดังนั้นงานที่ออกมาจึงหยาบมาก ซึ่งในวันเลือกตั้งประชาชนเขาตัดสินใจได้อยู่แล้วว่า อยากได้งานเกรดไหน
ส่วนเรื่องการเลือกตั้งนั้นนายทักษิณมั่นใจว่า จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ตามที่ กกต.วางไว้จริง เพราะ กกต.วางกรอบการเลือกตั้งจากกรอบกฎหมาย ทุกอย่างในขณะนี้เป็นสัญญาณของการเลือกตั้งที่ชัดเจน ซึ่งนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าง่ายๆ เลยคือ ไม่ทำในสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ และนายสมคิดทำ แต่ให้ลงไปรับฟังจากพี่น้องประชาชน ให้ประชาชนเป็นคนสะท้อนปัญหามาแล้วพรรคนำมาทำเป็นนโยบาย พูดง่ายๆ คือนโยบายต้องมาจากประชาชน
