เรืองไกร จี้ไม่หยุด!! ระบุ 4 เดือน ข้าวหาย 1.66 ล้านตัน มูลค่าลด 2 แสนล้าน ค้านเสียง สตง. เตรียมหอบหลักฐานพบ ‘บิ๊กตู่’ เคลียร์ข้อสงสัย

จำนำข้าว – วันที่ 1 ก.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกมาชี้แจงเรื่องผลขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังเป็นประเด็น โดยอ้างมติคณะรัฐมนตรีครม. เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2555 ว่าครม. อนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก เพื่อดำเนินการปิดบัญชีโครงการดังกล่าว หลังจากครบกำหนดไถ่ถอน หรือสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ และให้มีการปิดบัญชีเป็นรายปี โดยให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชี ว่ามติครม. เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2555 เป็นการปิดบัญชีฯ เฉพาะโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 เท่านั้น

ต่อมามีคำสั่งคสช.ที่ 176/2557 ลงวันที่ 6 มิ.ย. 2557 ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาจัดทำบัญชีปริมาณข้าวคงเหลือของรัฐ ทั้งปริมาณการรับ ปริมาณการจ่าย โดยแยกตามชนิดข้าว และคำสั่ง กบข. ที่ 2/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ผ่านมาของรัฐบาล ลงวันที่ 9 ส.ค. 2557 และผู้ว่าฯ สตง. เคยเบิกความไว้ต่อศาลฎีกา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2559 โดยระบุถึงคำสั่งกบข.ที่ 2/2557

นายเรืองไกร กล่าวว่า หลังจากตนออกมาถามเรื่องขาดทุนจำนำข้าว ก็มีหลายหน่วยงานออกมาโต้แย้ง โดยอ้างข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือขัดแย้งกันเอง เช่น กรมบัญชีกลาง บอกว่า รัฐบาลมิได้ลงบัญชีเป็นรายโครงการ ซึ่งขัดกับคำเบิกความของนางสาว น. คณะทำงานปิดบัญชี ที่เบิกความไว้ว่า หลักการคิดผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าว จัดทำข้อมูลแยกเป็นรายโครงการ

นอกจากนี้ในคำเบิกความของนางสาว น. ต่อศาลฎีกาเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2559 ยังมีข้อสังเกตที่น่าสงสัยว่า ทำไมผลขาดทุนของเปลือกนาปี ปี 55/56 ณ วันที่ 30 ก.ย. 2557 จึงน้อยกว่าผลขาดทุน ณ วันที่ 22 พ.ค. 2557 และปริมาณสต็อกข้าวคงเหลือ จึงมีมูลค่าลดลงมากผิดปกติจากวันที่ 22 พ.ค. 2557 จำนวน 19.22 ล้านตัน มูลค่า 494,608.15 ล้านบาท เหลือเพียง ณ วันที่ 30 ก.ย. 2557 จำนวน 17.56 ล้านตัน มูลค่า 197,349.98 ล้านบาท ซึ่งช่วงเวลาแค่ 4 เดือนเศษ หรือประมาณ 130 วัน สต็อกข้าวลดลง 1.66 ล้านตัน แต่มูลค่ากลับลดลงถึง 297,258.17 ล้านบาท ส่วนที่หลายหน่วยงานของรัฐที่ออกมาโต้แย้งตน โดยอ้างอิงผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวที่มาจากการปิดบัญชีของคณะทำงานที่มี นางสาว น. เป็นผู้จัดทำขึ้น ทำให้น่าเชื่อว่าหลายหน่วยงานของรัฐดังกล่าว คงไม่ได้พิจารณารายละเอียดในคำเบิกความของนาวสาว น. ที่ระบุไว้ว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกไม่มีการจัดทำบัญชี

นายเรืองไกร กล่าวว่า การที่หน่วยงานของรัฐนำผลขาดทุนจากการปิดบัญชีของนางสาว น. มาใช้อ้างอิง จึงยังไม่น่าจะถูกต้อง ตนจึงต้องนำหลักฐานมาแสดง และนำข้อสังเกตที่ชวนสงสัยส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้ทราบว่า ผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวนั้น ไม่ได้มาจากการจัดทำบัญชีแต่อย่างใด และสตง. ก็ยังไม่เคยตรวจสอบรับรอง ดังนั้นการออกคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่นายกฯ ให้ความเห็นชอบด้วย ได้อ้างเรื่องการขาดทุน เพื่อเรียกชดใช้ค่าเสียหายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงน่าจะมาจากข้อมูลที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นในวันที่ 3 ก.ย. นี้ เวลา 10.00 น. ตนจะนำหลักฐานต่างไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายกฯ ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน