‘ตือ’ จี้ อย่าทำแค่ คลายล็อก มาทำกั๊กยื้อเลือกตั้ง วอน ปล่อยมือ ไว้ใจปชช. ก่อสร้างปชต. เห็นชัด ม.44 กฎหมายสารพัดประโยชน์ มานอกเกมส์ ทำอะไรก็ได้

คลายล็อก – วันที่ 15 ก.ย. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คสช. มีคำสั่ง คลายล็อกให้กับพรรคการเมือง เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้บางส่วน ว่า เท่าที่อ่านแล้วเหมือนยังไม่สุด เพราะ บรรยากาศทางการเมืองในวันนี้เมื่อ ประกาศ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. และพ.ร.ป.ได้มาซึ่ง ส.ว. ลงมาแล้ว ทำให้บรรยากาศในเรื่องความเชื่อมั่นของการเลือกตั้งนั้นมีสูงมาก เห็นได้จากตลาดหุ้นที่พุ่งปรี๊ด สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่น และฝากความหวังไว้กับการเลือกตั้ง จึงควรที่จะทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งคืนสู่ภาวะปกติ เพื่อให้สอดคล้องกับบรรยากาศและความรู้สึก ความหวัง และความเชื่อมั่นของผู้คน

“วันนี้การที่ ยังไม่ปลดล็อก แต่คลายล็อคเพียงบางส่วนนั้น ทำให้เกิดมีความรู้สึกว่า อาจจะใช่หรือไม่ใช่ ซึ่งไม่ได้เกิดผลดีต่อรัฐบาลเลย ผมอยากให้รัฐบาลเชื่อมั่นศักยภาพของรัฐบาล และคสช. เพราะ 4 ปีกว่า เกือบ 5 ปี ทุกอย่างอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่รัฐบาล และคสช. ควบคุมได้ทั้งหมดแล้ว ดังนั้นควรจะมีความเชื่อมั่น และไว้วางใจประชาชนด้วย ทำให้เป็นประชาธิปไตยตามที่ทุกคนต้องการอยากจะเห็น”

การคลายล็อกเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่ทำให้สถานการณ์ไม่ตึงเครียดจนเกินไป ทำให้บางอย่างสามารถทำได้ แต่ก็ทำไม่ได้หมด คือ ไม่สุด จึงดูเหมือนกับว่า จะกึ่งเชือกึ่งไม่เชื่อ ว่าจะมีการเลือกตั้งจริงในวันที่ 24 ก.พ. 2562 เพราะการที่ไม่ปลดล็อกไปให้สุดนั้นเหมือนกับยังกั๊กๆ อะไรอยู่ จึงอาจทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงได้ และถ้านับเวลาตามโรดแม็ปจริงๆ แล้วจะต้องไปสิ้นสุดในเดือนพ.ค. 2562 ทำให้รู้สึกว่ามันยังไม่สุด อย่างไรก็ตามการทำงานทางการเมืองของพรรคการเมือง คงไม่สามารถทำได้เต็มที่ตามที่พรรคการเมืองควรจะ สามารถทำได้

การจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้คือต้องปลดล็อก ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นบรรยากาศของความประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ เป็นไปตามครรลอง เชื่อว่าถ้าเช่นนั้นจะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีล้มไพรมารีโหวตนั้น ก็สะท้อนความเป็นจริงให้เห็นแล้วว่า กฎหมายเขียนมาแล้ว ก็มาใช้มาตรา 44 ที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว่า ทำให้คลายความศักดิ์สิทธิ์ลงไป ทำให้ผู้คนเริ่มงง ทำให้คนมองเห็นว่าหรือในอนาคตจะมีการยกเลิกเลยหรือไม่ หรือจะมีการแก้ไขหรือไม่ เพราะเห็นในข้อจำกัดแล้วว่า ไพรมารีโหวตนั้น กลับสถานการณ์การเมืองไทยในวันนี้มันยังไม่ใช่

อย่างไรก็ตามการที่คลี่คลายออกมาอย่างนี้ ทำให้ดีคือ พรรคการเมืองไม่ต้องเกร็ง ทำให้พรรคการเมืองมีความรู้สึกคล่องตัวขึ้น ไม่งั้นมัวมาเกร็งกับเรื่องเหล่านี้ว่าจะทำทันหรือไม่ทัน แล้วจะเป็นไปตามเจตนารมย์ของพรรคการเมืองที่วางไว้หรือไม่ ทั้งนี้การมีคณะกรรมการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง อย่างน้อยก็เป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคได้เป็น โดยเฉพาะการที่กำหนดว่าจะต้องมีทุกภูมิภาค และคำนึงถึงความเท่าเทียมชายหญิง ถือว่ามีส่วนที่ทำให้ดีขึ้น

“ขอฝากคสช. รัฐบาล ว่าหลายพรรคการเมืองอยากเห็นบรรยากาศการเลือกตั้งคืนสู่สภาวะปกติ และเป็นไปตามธรรมชาติ ในเมื่อการเลือกตั้งเห็นอนาคตแล้ว ก็ควรจะปล่อยให้ไปกันอย่างเต็มที่ ขอให้เชื่อมั่นประชาชนว่า ไม่มีใครอยากจะฉุดรั้ง ประเทศให้ถอยหลังกลับไปสู่สภาวะเดิมหรอก มีแต่จะช่วยกันผลักให้ก้าวรุดไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นขอให้ไว้วางใจ และเชื่อมั่นประชาชน และมีความเชื่อมั่นในตัวเอง และศักยภาพของตัวเองว่าสามารถทำให้ บรรยากาศเป็นประชาธิปไตยได้โดยไม่มีเหตุการณ์ใดมาแทรกซ้อน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน