“บิ๊กป้อม” กำชับช่วยประชาชน ปลอดหนี้นอกระบบ พร้อมประสานธนาคารรัฐจัดทำธนาคารชุมชน โว ชุมชนตื่นตัวขอความช่วยเหลือเพิ่ม 20 ก.ย.

บิ๊กป้อม ปลดหนี้ประชาชน / เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่มีความคืบหน้าไปมาก จากการ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

ได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ขับเคลื่อน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ร่วมกันเข้าไปช่วยแก้ปัญหาในช่วงที่ผ่านมา โดยยึดหลักการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ตามข้อเท็จจริง ด้วยการจัดให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน เพื่อทำข้อตกลงร่วมกันตามที่กฎหมายกำหนด

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ( 15 ส.ค.- 17ก.ย.61 ) การบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย สามารถเจรจานำไปสู่การไกล่เกลี่ยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วกว่า 4,200 ราย อยู่ระหว่างเจรจา 1,200 ราย สามารถคืนทรัพย์สินให้ประชาชนได้เกือบ 4,300 ล้านบาท เป็นโฉนดที่ดิน กว่า 3,200 ฉบับ และสามารถดำเนินการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดได้ทั้งสิ้น 481 ราย ยึดของกลางได้มูลค่ากว่า 370 ล้านบาท

พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ฝ่ายความมั่นคง จะส่งมอบโฉนดที่ดิน บ้านและทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงจากเจ้าหนี้ คืนให้กับประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ตามนโยบาย พล.อ.ประวิตร ที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ติดจมกับปัญหาหนี้นอกระบบ ให้สามารถกลับมายืนและเดินไปด้วยกัน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร จะเป็นประธานมอบโฉนดที่ดินคืนให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานครั้งที่ 3 ที่ จ.กาฬสินธุ์

“พล.อ.ประวิตร ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูปัญหาหนี้นอกระบบในตลาดชุมชน ซึ่งภาพรวมประชาชนมีความเชื่อมั่นการทำงานของฝ่ายความมั่นคงมากขึ้น โดยเราได้รับการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากประชาชน เพิ่มมากขึ้นกว่า 6 หมื่นราย” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว

พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับการคลี่คลายปัญหาและเข้าสู่ระบบแล้ว กระทรวงแรงงานและธนาคารของรัฐ จะลงไปให้คำแนะนำและเสริมความรู้และทักษะการประกอบอาชีพให้

เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้มีความเข้มแข็งทางอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น และปัญหาความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงแหล่งทุน กระทรวงการคลัง ได้จัดหาแหล่งทุนให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น ทั้งธนาคารของรัฐ การปล่อยกู้จากเจ้าหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือพิโกไฟแนนซ์ รวมถึงการจัดทำธนาคารชุมชุนเพื่อให้ประชาชนร่วมกันออม โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนเงินทุนออมเข้าไปอีกส่วนหนึ่ง เพื่อกระจายให้ชุมชุนสามารถดูแลกันเองได้

นอกจากนี้ สิ่งที่เราพบในการลงพื้นที่ คือ การกู้ในส่วนที่เป็นเหตุฉุกเฉินของประชาชนส่วนใหญ่ ใช้เพื่อการรักษาพยาบาลและการศึกษา ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาล สำหรับการวิเคราะห์และประเมินความเหมาะสมในการพัฒนาระบบสวัสดิการ เช่น บัตรทองการรักษาพยาบาล และกองทุนเพื่อการศึกษา ที่เหมาะสมกับประชาชนส่วนใหญ่ โดยไม่เป็นภาระกับครอบครัวของผู้มีรายได้น้อยต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน