เผยแล้ว! แคนดิเดต ว่าที่ ‘ผู้นำเพื่อไทย’ คนใหม่ สมาชิกยอมรับ และต้องมีความเหมาะสมกับสถานการณ์พิเศษนี้!

12.30 น. วันที่ 21 ต.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค แถลงผลการประชุมพรรคเพื่อไทยว่า ที่ประชุมได้พูดคุยยืนยันความชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ได้หารือถึงข้อถกเถียงที่จะไปพูดคุยกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 28 ก.ย. ซึ่งมีหลายเรื่องยังไม่ชัดเจน รวมทั้งสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ขณะนี้ ไม่ว่าครม.สัญจรหรือการดำเนินงานต่างๆ ถือเป็นการกระทำที่มีโอกาสเข้าหาประชาชน หากเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย การทำแบบนี้คงไม่เหมาะ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ดังนั้น ในเมื่อรัฐบาลไม่ได้ยืนในจุดที่เป็นกรรมการตัดสิน แต่จะเป็นผู้เข้าร่วมดำเนินการทางการเมืองในอนาคต ก็ควรเปิดให้ทุกพรรค ทุกฝ่ายดำเนินบทบาทได้เช่นกัน การที่ทุกพรรคจะดำเนินการต่างๆ ต่อจากนี้ ไม่ใช่เพื่อทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย แต่หากไม่เข้าใจ ตนคิดว่าเราน่าจะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนและทำความเข้าใจกันให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะถูกมองได้ว่าสิ่งที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้กำลังสร้างและชิงความได้เปรียบจากทุกพรรคทุกฝ่าย และจะเป็นปัญหาในอนาคต

เคาะต้นเดือนตุลาประชุมใหญ่พรรค

อีกประเด็นที่พรรคคุยกัน คือ การเตรียมการทั้งหมดเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง มี 2 เรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการคือ 1.ปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับพรรคให้ชัดเจนตามข้อกฎหมายใหม่ และ 2.เลือกกรรมการบริหารและหัวหน้าพรรคใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่ สำหรับพรรคเพื่อไทยพร้อม โดยกรรมการพรรคเห็นว่าวันที่ 3 ต.ค.เราจะเรียกประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค อย่างไรก็ตาม เราได้รวบรวมความเห็นจากสมาชิก และกรรมการบริหารพรรคเพื่อยกร่างข้อบังคับพรรค ซึ่งในเวลา 17.00 น.วันนี้ เราจะเผยแพร่บนเว็บไซต์ของพรรค

รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในข้อบังคับพรรคนี้จะมีสาระสำคัญ 3-4 เรื่อง ประกอบด้วย อุดมการณ์ของพรรค คำประกาศเจตนารมณ์ คำประกาศอุดมการณ์ และนโยบายของพรรคที่เป็นกรอบกว้างที่จะใช้กำหนดแนวทางหาเสียงในอนาคต รวมถึงการกำหนดโครงสร้างและการบริหารจัดการของพรรคใหม่ ทั้งนี้ ในวันที่ 26 ก.ย. เราจะเชิญนักการเมือง อดีตส.ส.และอดีตรัฐมนตรีของพรรคทั้งหมดมาหารือข้อบังคับอย่างละเอียด ก่อนเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่วันที่ 3 ต.ค. เพื่อรับรองข้อบังคับ

ผู้นำคนใหม่ต้องเป็นที่ยอมรับ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.เป็นต้นไป จะเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติให้ตั้งสาขาพรรค 4 แห่ง คือ สาขาพรรคประจำภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ ภาคอีสานที่ จ.อุดรธานี ภาคกลางที่ จ.สมุทรปราการ และภาคใต้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค จะเลือกทันทีโดยกำหนดไว้คร่าวๆ ในวันที่ 28 ต.ค. หรือหากดำเนินการทุกอย่างตามข้อกฎหมายที่จำเป็นทั้งหมดแล้วมีความพร้อม เราอาจประชุมก่อนวันที่ 28 ต.ค.ก็ได้ โดยสิ้นเดือนต.ค เราต้องทำให้เสร็จภารกิจทั้งหมด

เมื่อถามถึงบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค นายภูมิธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะมี 21 คน สมาชิกพรรคสามารถเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคได้ ส่วนหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นคนที่สมาชิกให้การยอมรับ มีวิสัยทัศน์ และทันเหตุการณ์

ซึ่งพรรคมีบุคลากรที่มีศักยภาพ อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง – นายโภคิน พลกุล – นายชัยเกษม นิติสิริ – นายชูศักดิ์ ศิรินิล หรือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ต่างเป็นคนที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ผู้นำพรรคจะต้องทำหน้าที่ในสถานการณ์พิเศษได้ ส่วนที่มีการเสนอชื่อผู้นำพรรคหลายคนนั้น เราไม่ได้มองว่าขาดความเป็นเอกภาพ แต่เป็นความงดงามมากกว่า เราไม่ได้มองความหลากหลายของบุคลากรเป็นจุดอ่อนของพรรค แต่คือจุดแข็งของพรรค

ไม่ให้ราคา ‘3มิตร’ โชว์ดูด

เมื่อถามว่าตั้งเป้าว่าจะได้จำนวน ส.ส.เท่าไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้จำนวน ส.ส.อันดับหนึ่ง เราจะร่วมมือกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย นำสังคมไทยพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่นี้ได้ เชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ถ้าฟรีและแฟร์ ฝ่ายประชาธิปไตยจะมีส่วนได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากที่สุด แต่ทุกอย่างยังมีปัจจัยเงื่อนไขที่เราต้องกังวลอยู่เหมือนกัน เพราะการเลือกตั้งครั้งใหม่ขณะนี้ยังไม่เปิดให้หาเสียงหรือสื่อสารกับประชาชน ทั้งที่ในภาวะปกติพรรคสามารถดำเนินกิจกรรมและสื่อสารกับประชาชนได้ตลอด คิดว่าเป็นเรื่องที่เราจะสอบถามกกต. ให้ชัดเจนขึ้น

เมื่อถามถึงกลุ่มสามมิตร มีการดูดอดีตส.ส.ภาคเหนือพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ให้ความสนใจกลุ่มสามมิตร ที่ผ่านมามีแต่พูด อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของบุคลากรเกิดขึ้นได้ อยู่ที่การตัดสินใจของบุคคลนั้น หากตัดสินใจไปโดยยึดประโยชน์ของตนเองมากกว่า ประชาชนจะเป็นฝ่ายตัดสินเอง

เขตลดลง กระทบเพื่อไทยเต็มๆ

เมื่อถามว่าความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีผลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณ เป็นบุคคลที่มีคุณูปการต่อโลกต่อประเทศมาก ขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวลใจ เราทำหน้าที่ของเราต่อไป

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงจำนวนเขตเลือกตั้งที่ลดลง จาก 375 คน เหลือ 350 คนว่า พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบมากสุด แต่เมื่อกฎหมายเป็นเช่นนี้เราก็ต้องเดินหน้าเลือกตั้งไปตามบริบท อย่างไรก็ตาม การแบ่งเขตใหม่ต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและพรรคการเมือง ดังนั้น เราได้มอบให้ผู้สมัครแต่ละจังหวัดไปดูว่า กกต.จังหวัดแบ่งเขตอย่างไร

เราเห็นว่าในเขตใดที่ ส.ส.มีจำนวนเท่าเดิม ไม่ควรแบ่งเขตใหม่ ขอให้ยึดการแบ่งเขตเดิม ควรจะแบ่งเขตใหม่ในพื้นที่ที่มีจำนวนลดลง หรือเพิ่มขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ให้สมาชิกจับตาว่ามีการแบ่งเขตแบบกระโดดหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ามีการต่อรองแบ่งเขต เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคใดพรรคหนึ่ง และหาก กกต.จังหวัดแบ่งเขตไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ขอให้สมาชิกร้องคัดค้านให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน