ผู้ทรงคุณวุฒิ ซัด กฎหมายไซเบอร์ เหมือนบุกค้นบ้าน ไม่ขอหมายศาล เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯให้ทบทวนร่างกฎหมายดังกล่าว

วันที่ 16 ต.ค. พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน 1 ใน 7 กรรมการผู้ ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการด้านการเตรียมการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ที่ครม.แต่งตั้ง เตรียมยื่นหนังสือให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกฯ ทบทวน การผลักดัน กฎหมายไซเบอร์ หรือ ร่างพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ…. ของกระทรวงดีอี กล่าวว่า ผลกระทบของร่างกฎหมายดังกล่าวจะมีตามมาเยอะมาก

โดยเฉพาะที่สำคัญ 2 ส่วนคือ 1. ในแง่โครงสร้างคือ การให้สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กปช.) เป็นมหาชน ไม่ใช่ส่วนราชการจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนตามมา แทนที่จะมีหน้าที่ให้บริการรักษาความปลอดภัยอย่างเดียว เพราะเป็นมหาชนก็ย่อมลงทุนได้ ซึ่งไม่ควรอย่างยิ่ง

อ่าน นักกฎหมาย เตือน! กฎหมายไซเบอร์ สอดแนมร้ายกว่า สโนว์เดน แฉอเมริกา

เช่น ถ้ากสทช.เป็นมหาชน ไปลงทุนเครือข่ายมือถือแห่งหนึ่ง แล้วไปจวกอีกเครือข่ายหนึ่งที่ไม่ได้ลงทุน เหมาะสมหรือไม่ หรืออย่าง กลต.เองที่ดูแลตลาดหลักทรัพย์ก็ห้ามเจ้าหน้าที่เล่นหุ้น แต่หน่วยงานนี้สามารถทำธุรกิจได้ เมื่อทำกำไร ก็ไม่ต้องส่งคลัง ถ้าจะเปรียบก็เหมือนมันไม่ใช่กิจของสงฆ์ ตนมองว่า ควรเป็นส่วนราชการไม่ใช่มหาชน ถ้ากลัวไม่มีเงินก็ได้รับการจัดสรรงบประมาณทุกปีอยู่แล้ว

พ.ต.อ.ญาณพล กล่าวอีกว่า 2.อำนาจหน้าที่ มีมากมายก่ายกอง ภาษาชาวบ้านคือ บุกเข้าบ้านคนโดยไม่ต้องขอหมายศาล เปิดกว้างให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งสมาร์ทโฟน หรือโน้ตบุ๊ก ได้หากพบว่ามีปัญหาทางเทคนิค แล้วถามว่า คอมพิวเตอร์เครื่องไหนไม่มีไวรัสบ้าง ทุกคนสามารถโดนสั่งยกเครื่องไปตรวจสอบ 30 วัน ได้หมด ทั้งผู้กระทำความผิดและเหยื่อที่ถูกกระทำ

ในแง่ภัยคุกคามไซเบอร์ หรือ cyber threat ควรมีเงื่อนไขถ่วงดุลด้วยการขอหมายศาล กลไกในผังการทำงานค่อนข้างลับและซับซ้อนคนในยังเข้าใจยาก ทำตัวเหมือนเป็นหมอรักษาโรค แต่ไม่บอกวิธีรักษา บอกแค่ว่าใครเป็นโรคต้องโดนจับ ทั้งยังระวางโทษไว้สูง ใครขัดคำสั่งเลขาฯกปช.จำคุก 3 ปี








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน