เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายราเมศ รัตนะเชวง นายวรงค์ เดชกิจวิกรม และนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาพูดถึง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้สิทธิจำเลยอุทธรณ์ และมีการพูดชี้นำเลยไปถึงคดีจำนำข้าว ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ว่า ในฐานะทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้รับผิดชอบคดีในโครงการรับจำนำข้าว ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการจงใจที่จะพูดไม่หมด เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในคดีอาญาของศาลฏีกาแผนกคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้ให้สิทธิอุทธรณ์ได้เฉพาะจำเลยเท่านั้น แต่ได้ให้สิทธิโจทก์ในกรณีหากศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ได้ด้วย ซึ่งความจริงแล้วรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นการเพิ่มภาระแก่จำเลยเพราะแม้ว่าศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่คดีก็ยังไม่เป็นที่สุด เพราะโจทก์ยื่นอุทธรณ์ได้ แตกต่างจากรัฐธรรมนูญ ปี 2550

นายนรวิชญ์ กล่าวต่อว่า ในกรณีหากศาลมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ถือว่าคดีเป็นที่สุด ซึ่งโจทก์ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ ส่วนที่นายราเมศ ซึ่งมีฐานะทนายความออกมาพูดว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นการเอื้อประโยชน์แก่คดีจำนำข้าวที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฏีกา ถือเป็นไม่สมควรอย่างยิ่งเพราะเป็นการก้าวล่วงและชี้นำคดี ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา และยังคงเหลือพยานจำเลยที่จะเข้าสืบอีกหลายปาก อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้ยุติการก้าวล่วง และชี้นำคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา และยังมั่นใจในพยานหลักฐาน ความบริสุทธิ์ของ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะได้รับความเป็นธรรมจากศาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน