ดีเอสไอ แจงส่งเรื่องฟันจนท. เอื้อนายทุน รุกภูขี้ไก่ ‘สร้างสวนน้ำ’แล้ว หลังเสธ.ทหารเดือด

ดีเอสไอ – จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ต.ค. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการที่ 4 (ศปป.4) กองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ส่งข้อความผ่านไลน์เข้าไปในกลุ่มต่างๆ ในลักษณะระบายความอัดอั้น ที่เห็นการทำงานของระบบราชการที่ล่าช้า และไม่สอดคล้องกับการ ปฏิบัติการ เพื่อดำเนินการกับนายทุนที่รุกป่า กรณีที เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2561 มีการจัดงานเปิดตัว โครงการสวนน้ำแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุด พื้นที่ประมาณ 1,800 ไร่ บริเวณภูขี้ไก่ รอยต่อของอ.หล่มเก่า และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทั้งที่กำลังอยู่ในกระบวนการเพิกถอนโฉนดของ กรมที่ดิน และเป็นคดีอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น

ล่าสุดวันที่ 30 ต.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลเรื่อง ดังกล่าวแล้วพบว่า กรมป่าไม้ ได้มีหนังสือที่ ทส 1612.2/7959 ลงวันที่ 23 มิ.ย. 2549 ถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่อง การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน แจ้งว่าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบนภูขี้ไก่ รอยต่อของอ.หล่มเก่า และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พบมีการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินและมีการนำเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่า เป็นการครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย

แต่กรมป่าไม้พิจารณาจากสภาพพื้นที่เห็นว่า เป็นป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยมีสภาพป็นเขาสูงชัน เป็นป่าต้นน้าลาธาร ชั้น 1 บี และ ชั้น 2 พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นป่าสมบรูณ์ และขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการกรณีดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 5/2550 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2550 ให้ เป็นคดีพิเศษที่ 96/2550 และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ได้สืบสวนสอบสวนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของศาลในทางวิเคราะห์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการออกเอกสารสิทธิ ดังกล่าว และเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ส่งเรื่องไปยังสานักงาน ป.ป.ท. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. 2551 และเนื่องจากผลการสอบสวนที่ พบว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้มีหนังสือ ลงวันที่ 23 ก.ค. 2552 แยกเรื่องส่งให้กรมที่ดินไปพิจารณาดำเนินการตามตามประมวลกฎหมาย ที่ดิน มาตรา 61 เพื่อพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวอีกส่วนหนึ่งด้วย

พ.ต.อ.ไพสิฐ ยังระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่กรมได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายข้างต้นแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ภาค 6 ซึ่งมีภารกิจด้านการข่าว และการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษในพื้นที่ดังกล่าว ก็ได้รับแจ้งเบาะแสถึงกรณีกลุ่มนายทุนต่างชาตินำเงินมาลงทุนซื้อที่ดินบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันสูง มีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง และปรับพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ จึงรับเรื่องไว้สืบสวนเป็นสำนวนสืบสวนที่ 213/2561 เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2561

ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า พื้นที่เกิดเหตุยังมีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินป็นหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ อยู่ โดยบางแปลงเป็นพื้นที่มีความลาดชันเกิน 35 องศา ซึ่งตามปกติไม่อาจออกเอกสารสิทธิได้ และบางแปลงเป็นการอ้างการครอบครองต่อเนื่องโดยไม่มีเอกสาร ส.ค.1 และไม่มีหนังสือสำคัญ สำหรับที่ดินคงมีที่ดินเพียงบางส่วนเท่านั้น ที่ยังไม่พบหลักฐานว่าออกโดยขัดหลักเกณฑ์การออก เอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

นอกจากนั้น จากการลงพื้นที่ยังได้พบกลุ่มบุคคลที่พักอยู่ ในบริเวณดังกล่าวมีพฤติการณ์ส่อไปในทางสร้างลิทธิหรือความเชื่อใหม่ๆ โดยใช้ชื่อว่า “ชุมชน ธะธรรมชาติ” ซึ่งกรมจะเร่งสืบสวนว่าเป็นความผิดอาญาที่เข้าข่ายตามพระราชบัญญัติการ สอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 หรือไม่ เพื่อพิจารณาดาเนินการตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน