ถกเลือกตั้งเสรี-เป็นธรรม ‘โคทม’ แนะกกต.จี้คสช.เลิกยิงสดทีวี ทวงเวลาแจกพรรคการเมืองแทน ‘จาตุรนต์’ดักคอ อย่าสอยหลังเลือกตั้ง ช่วยคสช.ตั้งรัฐบาล ‘สมบัติ’ฟ้อง ตำรวจคุกคามสมาชิกพรรคเกียนอีก
จี้คสช. – เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่อาคารเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือข่ายเฟ จัดเสวนาสาธารณะ หัวข้อ การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมสถานการณ์ในสังคมไทย โดยมี นายโคทม อารียา อดีตกกต.และที่ปรึกษามูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ก่อตั้งพรรคเกียน และนายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการกกต. ร่วมเสวนา
นายเมธา กล่าวว่า เมื่อพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ธ.ค. งานทุกอย่างของกกต.จะพร้อม ระเบียบและประกาศต่างๆ จะออกมาทันที ส่วนการตรวจสอบนั้น เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความกระตือรือร้นของประชาชนในการดูแลสังคมของตนเอง กกต.หวังว่า บทบาทของภาคประชาชน จะทำให้การเลือกตั้งส.ส.ที่จะถึงนี้ ประชาชนจะรู้สึกมีความเป็นเจ้าของการเลือกตั้ง ทำให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม
นายโคทม กล่าวว่า กกต.ควรมีบทบาทในการจับตาคนมีอำนาจรัฐไม่ให้เอาเปรียบ คนมีอำนาจเงินไม่ว่าใคร อย่าหาเสียงกันฟุ่มเพือย หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตามกกต.ก็พึ่งอำนาจรัฐและหวังให้ผู้สมัครส.ส.มีจรรยาบรรณคงยาก ก็ต้องพึ่งประชาชนที่อยากเห็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม มาช่วยกับกกต.ด้วย ซึ่งมาตรา 35 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต. ให้ภาคประชาสังคมและมหาวิทยาลัยมาช่วยกกต. แล้วต้องช่วยจับตากกต.ด้วย และต้องเป็นเอกเทศ
นายโคทม กล่าวอีกว่า กกต.ต้องทำให้ประชาชนตื่นตัว ในวันที่ 9 ธ.ค. ที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ไปบังคับใช้ กกต.ไปขอร้องคสช.ให้ยกเลิกโฆษณารวมการเฉพาะกิจ ยกเวลาเหล่านั้นให้กกต.แทนได้หรือไม่ เพื่อให้กกต.พูดคุยกับประชาชนและพรรคการเมือง เพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม ได้หรือไม่ ส่วนเงื่อนไขการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่บอกให้กกต.หารือกับฝ่ายการเมืองและตัวแทนสื่อทุกช่องทางนั้น มีความละเอียดอ่อนมาก มันมีโทษแต่ประชาชนไม่รู้ว่าการกระทำใดเข้าข่ายหาเสียงหรือไม่ อยากให้เริ่มประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เนิ่นๆ
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า อยากเห็นกกต.ให้ใบเหลืองให้มากที่สุด โดยเฉพาะต่อการใช้เงินซื้อเสียง อย่าปล่อยให้พูดกันทั้งบ้านทั้งเมือง โดยไม่เห็นให้ใบเหลืองใครเลย อย่าไปให้ใบเหลืองใบแดงกันเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว โดยเฉพาะเวลาที่คะแนนชนะกันหวุดหวิด คสช.มี 124 เสียง ขาดอีก 2 เสียง แล้วมาให้ใบแดงกัน กกต.ต้องเป็นกลาง อย่ายุ่งกับการตั้งรัฐบาล
ส่วนนายสมบัติ กล่าวว่า เราไม่มีความเสรีแม้แต่การตั้งชื่อ ซึ่งมันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ควรได้ ข้อกำหนดให้ต้องมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง 500 คน พร้อมจ่ายคนละ 1,000 บาท เหมือนสกัดกั้นรายเล็ก สถานการณ์แบบนี้ คนจนไม่สิทธิก่อตั้งพรรค แต่นี่คือความไม่เป็นธรรม ผู้เล่นรายเล็กเกิดไม่ได้ เหมือนกฎหมายการค้าเบียร์ที่ต้องมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ผลิตได้ปีละ 10 ล้านลิตร ก่อนการประชุมพรรคเกียนเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ก็มีตำรวจบุกไปบ้านสมาชิกคนสำคัญคนหนึ่งของพรรคว่า ใครเป็นสปอนเซอร์ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้กกต.ใช้สื่อประชาสัมพันธ์ ช่วยหาสมาชิกให้พรรคการเมือง กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม
