“ไทยรักษาชาติ” เปิดตัวแล้ว! คนรุ่นใหม่เพียบ ไขข้อข้องใจ กับตัวย่อสุดแสบ “ทษช.”

7 พ.ย. เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้น พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2561 เพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. โดยมีอดีตแกนนำและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมประชุม

อาทิ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตส.ส.ขอนแก่น ลูกชายนายเสริมศักดิ์และนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายมิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด ลูกชายของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ (พ.พ.ช.) นายฤภพ ชินวัตร ลูกชายนายพายัพ ชินวัตร นายต้น ณ ระนอง ลูกชายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง

นอกจากนี้ยังมี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพิชิต ชื่นบาน อดีตทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย นายพฤติชัย วิริยะโรจน์ อดีตผู้แทนการค้าไทยในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผอ.สำนักงานสลากกินแบ่ง เพื่อนของนายทักษิน ชินวัตร

รวมทั้งทีมงานน.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกอบด้วยนายวิม รุ่งวัฒนจินดา น.ส.สุทิษา ประทุมกุล น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ลูกสาวของนางเยาวเรศ ชินวัตร ซึ่งเป็นน้องสาวของนายทักษิณ และคนรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย เช่น นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ เพื่อนสนิทของน.ส.แพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ชินวัตร

นายพชร นริพทะพันธุ์ ลูกชายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน และนายพชร ธรรมมล หรือฟลุค เดอะสตาร์ มาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ อย่างไรก็ตาม นางระเบียบรัตน์ และนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ ได้มาให้กำลังใจด้วย

จากนั้นเวลา 15.45 น. ที่ประชุมมีมติเลือก กก.บห. ประกอบด้วย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคได้แก่ นายฤภพ ชินวัตร น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล ส่วนนายมิตติ ติยะไพรัช เป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่รองเลขาธิการพรรค ได้แก่ นายต้น ณ ระนอง นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา

กรรมการบริหารพรรคได้แก่ นายรุ่งเรือง พิทยศิริ นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ส่วนนายทะเบียนสมาชิกพรรคคือ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายพงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ เป็นโฆษกพรรค นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เป็นเหรัญญิกพรรค

สำหรับคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค 11 ราย ประกอบด้วย ร.ท.ปรีชาพล น.ส.สุณีย์ นายมิตติ นายพฤฒิชัย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ นายพิชิต ชื่นบาน พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นายวราวุธ ยันต์เจริญ และ น.ส.สุทิษา ประทุมกุล

จากนั้น ร.ท.ปรีชาพล กล่าวบนเวทีว่า หลังจากนี้จะมีการประชุมกก.บห. และคณะกรรมการเลือกผู้สมัคร ส.ส. เพื่อวางกรอบการทำงานร่วมกับคณะที่ปรึกษา วันนี้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนของพรรค ว่าเราพร้อมรับใช้ประชาชนและประเทศชาติ เราจะเชื่อมโลกและคนเพื่อพัฒนาประเทศ เน้นนโยบายด้านเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต

เราเป็นพรรคที่รวบรวมความคิดคนรุ่นใหม่ ทันสมัยพร้อมมีความคิดของคนทุกรุ่น เราจะเป็นตัวเชื่อม จะไม่ยอมให้คนไทยตกยุค และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเป็นอันขาด กก.บห.ให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะเดินไปพร้อมกัน จะจับมือและไม่ทิ้งกัน เพราะเมื่อโลกก้าวไกล ไทยต้องก้าวทัน

เวลา 16.00 น. ร.ท.ปรีชาพล ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เชื่อว่าเราจะทำนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนได้ ตนอยู่ในแวดวงการเมืองมาตั้งแต่อายุ 27 ปี จนตอนนี้อายุ 38 ปี ครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เข้ามาเป็นผู้บริหารร่วมกับคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ไปสู่ทิศทางที่ดีได้ ยืนยันว่าทษช. มีความคิดและอุดมการณ์ของตัวเอง และรัฐธรรมนูญเขียนขึ้นเพื่อให้เกิดพรรคเล็กพรรคน้อยจำนวนมาก การย้ายพรรคของแต่ละคน มีเหตุผลแตกต่างกันไป

แต่เราเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะทำเพื่อประชาชน ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า ทษช.เป็นพรรคลูกของเพื่อไทยนั้น เราได้ปรึกษาหารือกันแล้ว ว่าเมื่อมีโอกาสที่จะได้ช่วยเหลือประเทศเราก็ต้องทำ พท.เป็นพรรคที่ดี การเดินออกจากพท.ไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่ทษช.เป็นการหลอมรวมคนรุ่นใหม่ เติมเต็มสิ่งที่ประเทศขาดหาย พท.ก็ทำสิ่งดีๆให้กับประชาชน แต่ทษช. นำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาประเทศ

“ที่ตั้งข้อสังเกตว่าเราจะฮั้วกับพท. คำว่าฮั้วใช้กับธุรกิจ ผมไม่เชื่อว่ามีการฮั้วทางการเมือง เพราะการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน เราจะหาสมาชิกและส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งให้มากที่สุด เมื่อลงสนามเลือกตั้งแล้ว คงไม่มีการแบ่งคะแนนกัน ผมว่าไม่มีการฮั้วแน่นอน เพราะคนที่ลงคะแนนคือประชาชน”ร.ท.ปรีชาพล กล่าว และว่า ทษช. ตั้งเป้าทั้งส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ จะส่งให้มากที่สุด แต่จะได้มากน้อย ขึ้นอยู่กับประชาชน

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าอักษรย่อของพรรค คล้ายตัวย่อ ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นเรื่องนานาจิตตัง แต่ ทษช. หมายถึงการรวมกันเพื่อเป็นหนึ่งของคนไทย เพื่อปกป้องรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตัวย่อของพรรคจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด แต่อยู่ที่อุดมการณ์และหลักการ แนวทางการทำงานของพรรค

เมื่อถามว่าจะวางยุทธศาสตร์การส่งผู้สมัครส.ส.อย่างไร เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับ พท. ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ถ้าจะต้องทับก็ต้องทับ ถือเป็นเรื่องปกติ วันนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะส่งผู้สมัครมากน้อยเพียงใด ส่วนการประเมินจะได้ส.ส.เท่าไรนั้น ต้องรอให้มีผู้สมัครชัดเจน พร้อมดูการทำโพลประกอบ ยืนยันว่าตนพร้อม ถ้าไม่พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตนคงไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค วันนี้ ทษช. พร้อมคุยกับทุกฝ่าย แต่พร้อมทำงานกับฝ่ายประชาธิปไตย เราพร้อมทำงานร่วมฝ่ายที่สนับสนุนประชาธิปไตยเท่านั้น

เมื่อถามว่านายพานทองแท้ ชินวัตร ติดต่อขอเข้าพรรคหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อ คนของพรรคพท. ก็มีการพูดคุยกันบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าใครจะเข้าร่วมกับเราบ้าง ก่อนวันที่ 26 พ.ย. ทุกคนต้องเลือกเข้าสังกัดพรรคที่ต้องการ ทั้งนี้ 4-5 ปีที่ผ่านมา คนอายุ 70-80 ปี คิดว่าตัวเองถูกทุกอย่าง ไม่ค่อยเปิดใจรับฟังคนอายุน้อยกว่า เราเป็นคนรุ่นใหม่ มีประสบการณ์และความรู้ จึงมุ่งมั่นตั้งใจร่วมกันเดินบนถนนสายนี้ แม้หนทางจะไม่ราบรื่น แต่เราก็เดินด้วยหัวใจ ทำเพื่อประชาชน ให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้

เมื่อถามว่านโยบายพรรค จะคล้ายกับของ พท.หรือพรรคไทยรักไทย ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า คนฉลาดจะไม่ปฎิเสธนโยบายในอดีตที่ประสบความสำเร็จ ตนยังคิดว่าอยากทำนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค โดยพัฒนาเทคโนโลยีเข้าไปปรับใช้ เช่น นำเอไอเข้าไปช่วยบุคลากรทางการแพทย์

ด้านนายมิตติ กล่าวถึงเหตุผลที่เข้ามาร่วมงานกับ ทษช.ว่า ส่วนตัวชื่นชอบงานการเมืองก่อนไปทำงานด้านฟุตบอล และได้พูดคุยกับนายยงยุทธ แล้วและเห็นด้วย ส่วนที่ตนอยู่คนละพรรคกับนายยงยุทธนั้น ต่างคนต่างมีแนวคิด แต่มีจุดยืนเดียวกันคือยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย เห็นว่าการเมืองช่วงนี้หนัก ไม่ว่าผลเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร รัฐบาลก็ทำงานลำบาก ดังนั้น ไม่ว่าใจจะชื่นชอบประชาธิปไตยหรือเผด็จการ ขอให้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จะได้รู้ว่าประเทศควรเดินไปทางไหนเพราะทุกคนมีสิทธิ

ด้านน.ส.ชยิกา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีโอกาสทำงานร่วมกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งด้านนโยบาย การประชาสัมพันธ์และงานด้านต่างประเทศ ที่ผ่านมาเห็นว่ามีมรสุมทางการเมืองมาก วันนี้ประเทศกำลังกลับเข้าสู่ประชาธิปไตย จึงผันตัวจากเบื้องหลังมาอยู่เบื้องหน้า ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตเป็นลูกหลานตระกูลชินวัตรนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยบอกกับตนว่าทำดีเท่าตัว ดังนั้น ต้องพยายามทำให้มากกว่าคนอื่น ก็หวังทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ และไม่ถูกอำนาจรัฐดำเนินคดีแบบสองมาตรฐานเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งถูกกระทำในช่วงที่ผ่านมา

ด้านนายฤภพ เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับมอบหมายจากพรรคให้ดูแลเรื่องใดเป็นพิเศษ สำหรับนโยบาย ไม่ได้โฟกัสที่คนรุ่นใหม่อย่างเดียว จะดูในหลายเรื่องเพื่อให้ครอบคลุมคนส่วนใหญ่ด้วย ในส่วนของนายพายัพ หลังจากรู้ว่าตนตัดสินใจมาเล่นการเมืองก็สนับสนุน พร้อมอวยพรจะทำอะไร ขอให้ตั้งใจ ทำให้เต็มที่ หากมีอะไรที่พอให้คำปรึกษาได้ ก็ยินดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน