ประธาน ป.ป.ช. จ่อเรียก “ทักษิณ” มาสอบ ปมโยงเอี่ยว คดีขายข้าวแบบจีทูจี!

12 พ.ย.โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการคืบหน้าคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสองว่า ปัจจุบันมีอนุกรรมการ 2 ชุดร่วมกันไต่สวนอยู่ โดยปรากฏผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม

จึงเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอให้มีมติไต่สวนเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีมติสั่งไต่สวนเพิ่มเติมแล้วกระบวนการต่างๆ จะได้ดำเนินการไป ซึ่งตามระเบียบ ป.ป.ช. อนุกรรมการไต่สวนจะต้องแจ้งให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาทราบว่ามีข้อขัดข้องหรือจะคัดค้านอนุกรรมการหรือไม่ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ให้ปากคำ รวมถึงยื่นพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน ขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้ว

เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายระบุผู้ถูกกล่าวหาคือ นายทักษิณ ชินวัตร และเครือญาติ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า “ถ้าเกี่ยวข้องกับใคร มีพยานหลักฐานอย่างไร เวลาป.ป.ช.จะดำเนินการ ผู้เกี่ยวข้องก็ต้องมาเข้ากระบวนการไต่สวน ซึ่งต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องจริงๆ แต่ถ้าไม่เกี่ยวข้องจริง ป.ป.ช.คงไม่สั่งไต่สวนเพิ่มเติม”

เมื่อถามว่าป.ป.ช.สั่งไต่สวนเพิ่มเติมในประเด็นใดบ้าง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและบุคคลที่ไปไต่สวนเพิ่มว่าเกี่ยวโยงกับผู้ที่เกี่ยวข้องตรงนั้นอย่างไร ซึ่งในการไต่สวนเริ่มต้นอาจเจอพยานหลักฐานเพียง 1-5 แต่เมื่อไต่สวนไประยะหนึ่งพบว่ามีบุคคลที่ 6-8 เกี่ยวข้องด้วย ถ้าเราไม่ไต่สวน 6-8 นั้นเพิ่ม พยานหลักฐานก็ไม่ครบถ้วน ไม่สามารถเชื่อมโยงไปได้

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เบื้องต้นเราอาจรู้ว่ามีคนอยู่ในเครือข่ายที่ถูกกล่าวหาเพียงแค่นี้ แต่พอไต่สวนแล้วพยานหลักฐานมันเพิ่มมากขึ้น เราต้องไต่สวนเพิ่ม ถือเป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็น ป.วิ อาญา หรือการไต่สวนของ ป.ป.ช. คดีในส่วนนี้เป็นส่วนที่สอง เพราะคดีจำนำข้าวมีเรื่องเกี่ยวกับการขายข้าวกว่า 10 สัญญา มีการดำเนินคดีไปแล้วกลุ่มหนึ่ง

และกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สอง ที่ยังไม่มีการดำเนินคดี เพราะเป็นตัวสัญญาการขายข้าว ยืนยันไม่ใช่การรื้อคดีเดิม แต่ป.ป.ช.ทำตามข้อมูลพยานหลักฐานและตามที่มีการกล่าวหา เป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มแรก เพราะสัญญาการขายข้าวเป็นคนละสัญญากัน และเป็นส่วนสัญญาที่เหลือเยอะ

เมื่อถามว่ามีความพยายามเชื่อมโยงว่าทำไมจึงหยิบคดีจีทูจีขึ้นมาในช่วงที่มีผลได้ผลเสียทางการเมือง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คงห้ามไม่ได้ การที่เราทำอย่างนี้อาจถูกมองไปได้ แต่ยืนยันว่า ป.ป.ช.ทำตามหน้าที่และหลักฐาน ถ้าเรื่องช้าไปเราก็ถูกหาว่าดึงเรื่อง เราโดนอยู่ดี ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องทำตามพยานหลักฐานและระยะเวลาที่ถูกเร่งรัดมากขึ้น เราอยากจะเร่งทุกวันทุกเรื่อง แต่มีข้อจำกัด เนื่องจากการไต่สวนของ ป.ป.ช.เป็นระบบให้โอกาสคนได้ชี้แจง เป็นระบบไต่สวน ให้นำพยานหลักฐานมาชี้แจงได้เต็มที่ จึงทำให้ดูว่าเราทำงานช้า

“มีหลายคดีที่เราอยากเร่งให้ทัน อย่างคดีสร้างสถานีตำรวจ แต่พอไต่สวนใกล้จะงวด ผู้ถูกกล่าวหาก็ร้องขอความเป็นธรรม ขอมาชี้แจงเพิ่มเติม ป.ป.ช.จึงต้องให้โอกาสเพราะถ้าไม่ให้ จะกลายเป็นว่าไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ยังหวังว่าคดีดังกล่าวจะเสร็จปลายปีนี้ ซึ่งใกล้งวดมากแล้ว เชื่อว่าคดีนี้จะเข้าสู่การพิจารณาวินิจฉัยได้เป็นล็อตสุดท้ายของปลายปีนี้” ประธานป.ป.ช. กล่าว

Thailand’s former Prime Minister Thaksin Shinawatra responds to questions during a news interview Wednesday, March 9, 2016, in New York. (AP Photo/Frank Franklin II)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน