ชาวประชาธิปัตย์ โวย บิ๊กตู่งัด ม.44 ขยายเวลา ส.ส. เอื้อพรรคพลังประชารัฐ?

นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคกลาง กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจมาตรา 44 ขยายเวลาการแข่งเขตเลือกตั้งออกไปว่า ในเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม ว่าใครได้ประโยชน์จากการขยายเวลาในขณะนี้ ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่าโรดแม็ปต่างๆทาง คสช. และรัฐบาล เป็นผู้กำหนดเองทั้งสิ้น การใช้มาตรา 44 ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อการจัดสรรผู้สมัครลงเขตเลือกตั้งโดยตรง

“ผมมองว่าการเลื่อนเวลาครั้งนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ ต่อพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ที่ขณะนี้มีข่าวว่าไม่ลงรอยกับกลุ่มสามมิตร ในเรื่องของการแบ่งผู้สมัครลงเขตต่างๆไม่ได้ หรือทับซ้อนกัน เพื่อให้มีเวลาจัดสรรแบ่งกันให้ลงตัวมากที่สุด และเพื่อให้เอื้อต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป สุดท้าย พปชร.ก็จะเสนอชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรายชื่อที่จะให้เป็นนายกฯ”นายสาธิต กล่าว

นายสาธิต กล่าวต่อ ว่าจริงๆแล้วถ้าทุกอย่างทำตามโรดแม็พเดิมตามที่ประกาศออกมา ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องแบ่งเขตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมีคนสั่งการก็ได้ ก็ต้องติดตามต่อไปว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ตนวอนขอให้ กกต. อย่าได้ยอมเสื่อมตามรัฐบาลด้วยการทำตามคำสั่งแบบนี้ เพราะถ้าองค์กรอิสระเป็นไปกับเขาด้วย ประเทศไทยก็คงไม่เหลืออะไร

ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่16/ 2561ที่ขยายเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้งออกไปว่า อาจแสดงให้เห็นว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลและคสช. เข้ามาแทรกแซงการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้งๆที่การแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)

และได้ดำเนินการไปแล้วโดยก่อนหน้านี้ นายอิทธิพล บุญประคอง ประธาน กกต.ได้ระบุว่า เตรียมที่จะนำการแบ่งเขตเลือกตั้งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่กลับมีคำสั่งฉบับนี้ออกมาตัดหน้า แสดงให้เห็นว่า อาจมีการส่งสัญญานจากผู้มีอำนาจที่จะแทรกแซงให้มีการเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ กกต. ทำไปแล้วแต่ไม่สำเร็จใช่หรือไม่ จึงออกคำสั่งใหม่เปิดทางให้มีการรื้อการแบ่งเขตเลือกตั้งได้อีก และยังเปิดช่องให้มีการร้องเรียนผ่าน คสช. และรัฐบาลซึ่งจะนำไปสู่เงื่อนไขให้ กกต. เปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งใหม่

“การกระทำแบบนี้จะเป็นความเสียหายร้ายแรงต่อกระบวนการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะเท่ากับว่ามีการเข้ามาแทรกแซงการทำงานของกกต. ได้ซึ่งจะทำให้ผลการเลือกตั้งไม่ได้รับความเชื่อถือ อันจะนำไปสู่การไม่ยอมรับการเลือกตั้งในอนาคตได้ ทั้งที่คสช.อ้างเรื่องการปฏิรูปการเมืองมาโดยตลอด แต่กลับออกคำสั่งหัวหน้าคสช. โดยใช้อำนาจพิเศษมาแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระอย่าง กกต.

ถือเป็นการกระทำที่สวนทางการปฏิรูปการเมือง ที่ต้องให้กลไก องค์กรอิสระทำงานอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ คสช. ยังมีพฤติกรรมที่อาจส่อไปในการเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากการที่มีรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลไปตั้งพรรคการเมือง” นายบุญยอดกล่าว

นายบุญยอด กล่าวว่า การเลื่อนการแบ่งเขตเลือกตั้งที่จะมีขึ้นจะถูกครหาว่าทำเพื่อความได้เปรียบทางการเมืองของพรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยปฏิเสธหรือตอบรับ

ซึ่งการยื้อเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ล่าช้าออกไป ยังกระทบกับการเตรียมความพร้อมของพรรคการเมืองเพราะ ไม่สามารถที่จะจัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดได้ เนื่องจากยังไม่มีการแบ่งเขตเลือกตั้งซึ่ง จะส่งผลกระทบทำให้อาจส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งไม่ทันเพราะในคำสั่ง คสช. ระบุให้มีคณะกรรมการสรรหารวม 11 คน

โดยต้องรับฟังความเห็นจากตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดและสาขาพรรคก่อน จึงจะคัดเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้การขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้งออกไปจนถึงก่อนวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ที่กฎหมายเลือกตั้ง ส. ส. จะมีผลบังคับใช้จึงถูกมองได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดการเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน