สุริยะ ซัด บ้านเมืองขัดแย้ง เพราะพรรคเพื่อไทย ยกบิ๊กตู่ เผด็จการ แต่ซื่อสัตย์ ลั่นนโยบาย เทพกว่า ‘บัตร 30บาท’!
สุริยะ ซัด – 6 ธ.ค. เมื่อเวลา 09.45 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดสัมมนาแนวทางการรับสมัครสมาชิกภาคกลาง มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เป็นประธาน พร้อมด้วยแกนนำพรรคคนอื่นๆ ร่วมชี้แจง ได้แก่ นายสุชาติ ตันเจริญ นายอนุชา นาคาศัย นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ และนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค มาให้ความรู้ในเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อเป็นแนวทางในการหาสมาชิกพรรค
โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลา งเข้าร่วมประชุม อาทิ นายอำนวย คลังผา ว่าที่ผู้สมัคร จ.ลพบุรี นายฉลอง เรี่ยวแรง ว่าที่ผู้สมัคร จ.นนทบุรี รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร จ.ชลบุรี ที่มายกจังหวัด เป็นต้น โดยก่อนการประชุมมีการถ่ายรูปติดบัตรสมาชิกพรรคด้วย
นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมเพื่อชี้แจงผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้ง เกี่ยวกับข้อกฎหมาย ว่าจะทำอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ระบุไว้ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต ดังนั้น จึงต้องทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ต่างๆ
สำหรับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุจะไม่จับมือกับพรรค พปชร.จัดตั้งรัฐบาลนั้น เวลานี้พรรค พปชร. ต้องทำนโยบายที่ตอบสนองประชาชนเพื่อให้ได้ ส.ส.มากที่สุด ส่วนการตั้งรัฐบาล หลังเลือกตั้งไม่มีครั้งใดจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ โดยขณะนี้กระแสของพรรค พปชร.เป็นไปด้วยดี หากผู้สมัครลงพื้นที่อย่างหนัก กระแสของพรรคจะดีขึ้นอีก เราจะลงไปบอกกับประชาชนว่าจะดำเนินนโยบายอะไร พร้อมรับฟังความต้องการประชาชนเพื่อจัดทำนโยบาย
“ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่และโพล ได้ประเมินว่าเราจะได้ ส.ส.150 คนทั่วประเทศ ภาคอีสานจะได้ประมาณ 50-60 คน กลาง 40 คน ภาคใต้น่าจะได้ไม่มาก เพราะในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ถือว่ามีจุดแข็ง แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนภาคเหนือ วันนี้ประชาชนตอบรับดี เชื่อว่าจะได้คะแนนและส.ส.สูสีกับพรรคเพื่อไทย”นายสุริยะ กล่าว
เมื่อถามว่าจะนำนโยบายของรัฐบาลมาหาเสียงหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะมีคนลอกเลียนแบบ แต่ยอมรับว่านโยบายของรัฐบาลจะเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายหาเสียงควบคู่กับการลงพื้นที่ และถามความคิดเห็นของประชาชนว่าต้องการอะไร โดยจะนำมาเป็นนโยบายของเรา ในการหาเสียงต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีผลโพลมหาวิทยาลัยรังสิตที่ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สูงขึ้น จะเป็นจุดแข็งของพรรคหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะนี้มีโพลหลายสำนักและโพลมหาวิทยาลัยรังสิต ก็เป็นการทำในเบื้องต้น ถ้าวันนี้ผู้สมัครทุกคนสามารถลงพื้นที่และบอกในสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำไว้ให้กับประชาชนได้ เชื่อว่าความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ ก็จะสูงขึ้น แต่ขณะนี้ต้องไม่ลืมว่าพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ตัดสินใจหรือแสดงเจตนาในเรื่องการเมือง แต่มั่นใจว่าคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถามว่ากระแสในพรรคอีสานจะสู้พรรคเพื่อไทย ได้หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า อดีตพรรคไทยรักไทยและพรรคเพื่อไทย มี 2 นโยบายในการหาเสียงคือ 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้าน แต่รัฐบาลปัจจุบัน มีหลายนโยบายที่มากกว่า 2 เรื่องนี้
ซึ่งพรรค พปชร.เองก็จะมีนโยบายใหม่ๆออกมา ดังนั้น เมื่อประชาชนได้พิจารณาแล้วเห็นว่าดี พปชร.ก็จะได้คะแนนมากกว่าพรรคเพื่อไทย ส่วนกที่มีการจุดกระแสต่อสู้กันระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการนั้น ที่แล้วมามีความพยายามกล่าวหากันอย่างต่อเนื่อง โดยบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นเผด็จการ
แต่ประชาชนต้องย้อนกลับไปดูว่าสาเหตุ องการเข้ามาปฏิวัตินั้น เพราะการเมืองแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ทำให้ประชาชนแบ่งเป็น 2 ขั้ว เป็นผลมาจากการที่พรรคเพื่อไทยออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ก่อให้เกิดความขัดแย้งวุ่นวาย จนเกิดจลาจล ประชาชนเสียชีวิตและมีการทำลายทรัพย์สิน พล.อ.ประยุทธ์ จึงไตัดสินใจออกมา
หากพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการแสวงหาอำนาจจริง ก็คงจะออกมาเร็วกว่านี้ แต่ได้ให้เวลาพรรคการเมืองแก้ไขปัญหาต่างๆ จนที่สุดแล้วก็ทำไม่ได้ และมาวันนี้เมื่อบ้านเมืองสงบ พล.อ.ประยุทธ์ก็ประกาศที่จะให้มีการเลือกตั้ง วันนี้คือการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมือง สู้ด้วยนโยบาย ไม่ใช่สู้เรื่องเผด็จการหรือประชาธิปไตย
เมื่อถามว่ามีการกดดันให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกเพื่อลงมาสู้ในสนามเลือกตั้ง นายสุริยะ กล่าวว่า เห็นว่ามีการกดดันทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และ 4 รัฐมนตรีในพรรคให้ลาออก แต่อดีตประธาน กกต.ก็ยังระบุชัดว่าที่ผ่านมารัฐบาลจากการเลือกตั้ง ไม่มีหัวหน้ารัฐบาลชุดใดต้องลาออก เมื่อหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่จนจบ และสมัยที่ตนดูพรรคไทยรักไทยก็อยู่กันจนครบสมัย ไม่มีการลาออก แต่ก็หาเสียงกันตามปกติ
เช่นเดียวกับสมัยพรรคประชาธิปัตย์ที่เมื่อเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ลาออกเมื่อจะมีการเลือกตั้ง และเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ยังต้องรับผิดชอบในปัญหาด้านเศรษฐกิจ หากลาออกมาแล้วจะใช้กลไกใดแก้ไขปัญหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ถึง 4 ปี เพราะมีความซื่อสัตย์ ที่จนมั่นใจว่าเป็นจุดแข็งของพล.อ.ประยุทธ์
จากนั้นเวลา 10.00 น. นายสุริยะ กล่าวเปิดสัมมนาตอนหนึ่งว่า ตอนนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการเพิ่มสิทธิต่างๆให้ประชาชนผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยประชาชนได้ประโยชน์ทั้งเรื่องค่าน้ำค่าไฟ ให้เงินของขวัญปีใหม่ หากพวกเรานำเรื่องดังกล่าวไปขยายผลในพื้นที่ เชื่อว่าพรรค พปชร.จะได้คะแนนเสียงพอสมควร นอกจากนี้อยากให้สมาชิกไปถามความต้องการของประชาชน ว่าต้องการอะไรเพื่อนำเสนอผู้บริหารพรรค เพื่อจัดทำนโยบายต่อไป