อภิสิทธิ์ ชู นโยบายกระจายอำนาจ มั่นใจ “ดีกว่าพรรคอื่น” พร้อมเป็น ‘ทางรอดให้ประเทศ’

อภิสิทธิ์ – เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. ที่โรงแรม เดอะสุโกศล ถนนศรีอยุธยา พรรคประชาธิปัตย์ จัดเสวนาหัวข้อ “ทศวรรษหน้า ท้องถิ่นไทย” โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดเสวนาในตอนหนึ่งว่า เรื่องการกระจายอำนาจ มีความจำเป็นต่ออุดมการณ์ ความหลักคิด ความเชื่อ ไม่ใช่แค่เรื่องทางเทคนิค ใครที่พยายามมองเป็นเรื่องเทคนิค

สุดท้ายถ้าไม่มีนโยบายสนับสนุนการกระจายอำนาจก็ไปไม่ได้ เช่น 4 ปีที่ผ่านมา บอกว่าจะมีการปฏิรูปประเทศ แต่ถ้าไม่มีความเชื่อเรื่องอุดมการณ์ ทำให้การกระจายอำนาจไม่เดินหน้า ขอย้ำว่าการกระจายอำนาจไม่ใช่แค่เรื่องท้องถิ่น แต่เป็นเรื่องของประเทศ โดยเฉพาะสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไทย วันนี้มีการวิจารณ์ทุกเรื่อง สิ่งหนึ่งที่มองข้ามไป คือโครงสร้างการกระจายอำนาจขาดไป จึงทำให้ความเหลื่อมล้ำสูงอยู่ทุกวันนี้

เราเห็นความพยายามแก้ปัญหาส่วนกลางอย่างเดียว ที่ไม่สามารถตอบโจทย์สังคมได้ ปรากฏการณ์หว่านเงินลงไปแสนล้าน แต่ปรากฏว่าโครงสร้างที่ขาดการกระจายอำนาจไม่ได้หมุนอยู่ในชุมชน แต่เงินถูกดูดกลับมาศูนย์กลางของผู้ที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจ ถ้าท้องถิ่นไม่มีอำนาจมาจัดการตนเอง และยังไม่สามารถตอบโจทย์เศรษฐกิจชุมชนได้ สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่ความรู้สึกแปลกแยก ความเหลื่อมล้ำสูง อาจเกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นมา การกระจายอำนาจท้องถิ่นจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เรากำลังเริ่มต้นเข้าสู่การกระจายอำนาจที่ถดถอย เพราะแนวคิดของผู้มีอำนาจไม่ได้เชื่อเรื่องนี้ มีเรื่องที่หยิบมาสกัดกั้นเรื่องนี้คือ การทุจริตคอร์รัปชั่น ทำให้นักการเมืองระดับชาติ และท้องถิ่นกลายเป็นผู้ร้ายอยู่ในสายตา และถูกนำมาเป็นข้ออ้างในการไม่กระจายอำนาจ หรือทำให้ท้องถิ่นอ่อนแอ

นี่ไม่ใช่เรื่องที่ถูก การจัดงบประมาณจากภาษี ที่จะต้องมีอัตราคำนวณว่าแต่ละท้องถิ่นควรจะได้รับงบประมาณเท่าใด มากกว่าการใช้ดุลยพินิจจากส่วนกลาง ที่ผ่านมามีการใช้มาตรา 44 กับท้องถิ่นเยอะมาก แต่ในระยะหลังคนที่เลวร้ายทั้งหลายโดนมาตรา 44 ในช่วง 1-2 ปีแรก สามารถมาเป็นคนดีได้ ถ้ามาสังกัดพรรคการเมือง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เราต้องใช้หัวใจปลดล็อกเรื่องอำนาจก่อน และกฎหมายท้องถิ่นควรเขียนว่า ไม่ให้ทำอะไร แต่ที่เหลือต้องทำได้หมด เช่น การป้องกันประเทศ การจัดทำงบประมาณ และสร้างกระบวนการยุติธรรมของตัวเอง โดยงานด้านพัฒนาสามารถให้ท้องถิ่นทำได้ทุกด้าน โดยไม่ต้องรอนโยบายจากส่วนกลาง เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ และการแก้ปัญหา

นโยบายการกระจายอำนาจของพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะตอบโจทย์ในการรื้อระบบท้องถิ่นให้ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง มากกว่านโยบายของพรรคอื่นๆ ที่ได้ยินจากการประชันวิสัยทัศน์บนเวทีเสวนาต่างๆ ยืนยันว่า ตนและพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อม ทั้งในแง่ประเด็น และข้อกฎหมาย และยังมีเจตจำนงที่แน่วแน่ที่จะทำให้สำเรจ ซึ่งแม้จะมีแรงต่อต้านจากพื้นที่ก็ตาม เพราะถือเป็นทางรอดของประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน